ไมค์-พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล เรียนรู้และเข้าใจ ชีวิตพอเพียงของครูไกลปืนเที่ยง
หากว่ากันตามระยะทาง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ไกลจากกรุงเทพฯ เพียง 130 กว่ากิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ 2-3 ชั่วโมงก็ถึงแล้ว จึงแทบไม่มีใครคิดว่าภายในพื้นที่อุทยานแห่งชาติที่ใกล้กับเมืองหลวงขนาดนี้ จะมีโรงเรียนเล็กๆ ติดริมเขื่อน ซึ่งมีเพียงถนนลูกรังและเรือเท่านั้นที่เข้าไปถึง ไมค์-พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล ก็เช่นกัน เมื่อต้องฝ่าเส้นทางขรุขระกลางผืนป่าเข้าไปยัง ‘โรงเรียนบ้านพุเข็ม’ เป็นครั้งแรกก็ถึงกับเอ่ยปากว่า “ที่นี่คือเพชรบุรีจริงๆ เหรอครับ”
Clik here to view.

ที่มาของการเดินทางไปยังแก่งกระจานครั้งนี้ของไมค์ คือการไปทำความรู้จักกับ คุณครูสุมล เรืองเทศ ผู้ดูแลเด็กๆ ชาวเขื่อนอยู่ที่โรงเรียนบ้านพุเข็มมาตลอดอายุราชการกว่า 30 ปี แม้จะเป็นพื้นที่ไกลปืนเที่ยง ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวก ไม่มีถนนดีๆ ไม่มีสถานพยาบาล ไม่มีไฟฟ้าให้ใช้ แต่คุณครูก็ยังคงเลือกที่จะใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ โดยทำทุกอย่างตั้งแต่สอนหนังสือ ทำอาหาร ตัดผม และเป็นที่พึ่ง ที่ปรึกษาให้กับเด็กๆ ไม่คิดที่จะย้ายหนีไปไหน นั่นจึงทำให้ไมค์เกิดความสงสัยว่า ผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างครูยืนหยัดอยู่ได้อย่างไร
การจะเดินทางไปโรงเรียนบ้านพุเข็ม เส้นทางที่สะดวกและรวดเร็วที่สุดคือทางเรือ แต่วันนั้นไมค์และทีมงานเดินทางจากที่พักริมเขื่อนด้วยรถยนต์ ซึ่งต้องเบี่ยงออกจากทางหลวงสายหลักเข้าไปในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานราว 16 กิโลเมตร ดูจากระยะทางเหมือนจะไม่ไกล แต่เอาเข้าจริงเส้นทางลูกรังที่พื้นผิวเต็มไปด้วยหลุมบ่อก็กินเวลาในการเดินทางไปหนึ่งชั่วโมงเต็มๆ เรียกว่านั่งสั่นกันไปตลอดทางกว่าจะถึง
Clik here to view.

08.00 น.
เมื่อไปถึงโรงเรียนก็เป็นเวลาเดียวกับที่เด็กนักเรียนสายริมน้ำซึ่งต้องเดินทางด้วยเรือมาถึงโรงเรียนบ้านพุเข็มพอดี คนหล่อของเรากล่าวทักทายสวัสดีคุณครูสุมล และครูนิก ครูขวัญ คุณครูน้องใหม่ที่เพิ่งมาบรรจุเมื่อต้นเทอมที่ผ่านมา แล้วเดินลงไปรับเด็กๆ จากท่าเรือ แววตาของน้องๆ หนูๆ กว่า 40 ชีวิตในเรือหางยาวดูตื่นเต้นเป็นพิเศษที่วันนี้มีครูผู้ช่วยหน้าตาคุ้นๆ มาคอยรับถึงท่า แม้บางคนจะต้องตื่นนอนตั้งแต่เช้ามืดเพื่อให้ทันลงเรือมาเรียนก็ตาม
“เด็กที่บ้านอยู่ลึกสุดต้องตื่นตั้งแต่ตี 4 เพื่อลงเรือก่อน จากนั้นเรือโรงเรียนจะทยอยไปรับเด็กๆ ตามจุดต่างๆ จนออกจากบ้านหลังสุดท้ายที่ใกล้โรงเรียนที่สุดแล้วต้องใช้เวลาอีกเกือบๆ 2 ชั่วโมงจึงจะมาถึงโรงเรียน” คุณสุมลเล่าให้ไมค์ฟัง ก่อนจะบอกต่อว่าหากเป็นช่วงหน้าแล้งที่น้ำลดต่ำ ครูต้องออกจากโรงเรียนแต่เช้ามืดเพื่อไปรับเด็กนักเรียนด้วยตัวเอง เพราะบางจุดน้ำตื้นเขินเรือใหญ่เข้าไปไม่ถึง คุณครูจึงต้องนั่งเรือเล็กเข้าไปรับเด็กๆ จากบ้านอีกที ได้ยินแล้วไมค์ก็ได้แต่ทึ่งในหน้าที่ของครูริมเขื่อนที่แตกต่างจากครูในเมืองมาก
Clik here to view.

Clik here to view.

08.30 น.
หลังขึ้นจากเรือและทำกิจกรรมหน้าเสาธงเสร็จแล้ว ระฆังก็ตีบอกเวลาเข้าเรียน เด็กๆ แยกย้ายไปตามชั้น อนุบาล 1-2-3 แยกไปหนึ่งห้อง ป.1 และ ป.2 เข้าห้องเดียวกัน ป.3 และ ป.4 ไปนั่งอีกห้อง เช่นเดียวกับ ป.5 และ ป.6 ที่ต้องเรียนรวมกัน ช่วงนี้โชคดีที่มีครูผู้ช่วยบรรจุใหม่ 2 ท่าน จึงช่วยแบ่งเบาภาระการสอนของครูสุมลลงไปได้บ้าง จากที่ต้องสอนเองคนเดียวมานานหลายปี
“เด็กที่นี่น่าสงสาร เขาหวังพึ่งคุณครู แต่ครูส่วนใหญ่มาบรรจุสักพักก็ย้ายไปหมด เหลือแค่เราที่ตั้งใจแล้วว่าจะ ต้องอยู่ให้ได้ ช่วงที่ผ่านมาครูก็เลยต้องสอนคนเดียวทุกวิชา ตั้งแต่ ป.1-ป.6” คุณครูวัยใกล้เกษียณบอกกับคนหล่อของเราพร้อมรอยยิ้ม วันนั้นไมค์จึงอาสาช่วยสอนเด็กๆ อีกแรง โดยช่วงเช้าครูพี่ไมค์ของน้องๆ รับหน้าที่สอนชั้น ป.1 และ ป.2 ในรายวิชาใหม่ที่ฟิวชั่นระหว่างศิลปะและคณิตศาสตร์ เป็นการเรียนการสอนที่ทั้งสนุกและได้ความรู้ไปพร้อมกัน จนเด็กๆ ติดใจบอกกับคุณครูคนใหม่ว่า “ครูพี่ไมค์มาสอนที่นี่เลยไหมครับ” แถมคุณครูตัวจริงยังชมว่าสอนดี ทำเอามือใหม่หัดสอนถึงกับยิ้มหน้าบานเลยทีเดียว
Clik here to view.

Clik here to view.

Clik here to view.

ครูขวัญ: “เยี่ยมไปเลยค่ะ” ^^
11.00 น.
ก่อนถึงมื้อเที่ยงคุณครูสุมลยังมีอีกหนึ่งหน้าที่ต้องทำ นั่นคือการเตรียมอาหารกลางวันสำหรับนักเรียนทั้ง 52 คน แม้ช่วงหลังมานี้ทางโรงเรียนจะให้ผู้ปกครองนักเรียนรับหน้าที่จัดทำอาหารกลางวันในราคา 20 บาทต่อคนต่อมื้อมาให้ แต่บางครั้งคุณครูก็ยังต้องลงมือทำเอง อย่างเช่นวันนี้ ไมค์จึงมีโอกาสโชว์ฝีมือทำอาหารด้วยการทำไข่เจียวสูตรพิเศษถึง 10 กระทะ 60 ฟอง งานนี้คนหล่อไม่มีบ่น บอกแต่เพียงว่า “สบาย ซีรีส์เรื่องล่าสุดผมต้องเล่นเป็นเชฟ เลยฝึกมาเยอะ” แล้วตั้งหน้าตั้งตาเจียวไข่ท่ามกลางสายตาลุ้นระทึกของเด็กน้อย ก่อนจะภูมิใจนำเสนอ “ไข่เจียวไมค์” ไว้กลางโต๊ะอาหารมื้อเที่ยง พร้อมกับเสียงคอนเฟิร์มจากคุณครูสุมลว่า “ไข่พี่ไมค์อร่อยนะ” เป็นการการันตี
ระหว่างมื้อคุณครูเล่าให้ฟังว่า “เรื่องอาหารสำหรับเด็กๆ เป็นเรื่องสำคัญ เด็กบางคนต้องออกจากบ้านตั้งแต่เช้ามืด ทางครอบครัวไม่ทันเตรียมอาหารเช้าให้ เราก็ต้องดูแลเขา หาอะไรให้กินก่อนเข้าเรียน และไม่ใช่แค่เด็กนักเรียน ครูยังต้องดูแลไปถึงทางบ้านเขาด้วย บ้านไหนขาดเหลืออะไรก็ช่วยดู บางครอบครัวไม่มีข้าวสาร เราก็ไปหาตามวัดมาให้ ช่วยเท่าที่จะช่วยได้” ฟังแล้วนับถือในตัวตนและหัวใจของครูจริงๆ
Clik here to view.

Clik here to view.

Clik here to view.

ตามติดภาระกิจของครูพี่ไมค์ได้ที่หน้า 2
The post ไมค์-พิรัชต์ กับภาระกิจ “คนหล่อขอทำดี ปี 10 (คนหล่อพอเพียง) appeared first on SUDSAPDA.COM.