แค่ข้ามคืน The Mask Singer ก็เปลี่ยนชีวิตสาวผู้เข้ารอบสุดท้ายเพียงคนเดียวแบบไม่ทันตั้งตัว ด้วยเสียงที่สวยทรงพลังทำให้ได้รับคำชื่นชมไปมากมายทีเดียว เรื่องราวหลังหน้ากากของ “มังกร” จะสนุกและโหดมันฮาขนาดไหน ตามสุดฯ ไปคุยกับเธอกัน
บุ๋ม-ปนัดดา วงศ์ผู้ดี – “มังกร” คุณแม่พลังเสียงโอเปร่า
มังกร VS. บุ๋ม ความเหมือนและต่าง
จริงๆ มังกรมีความเป็นบุ๋ม 70 เปอร์เซ็นต์เลยนะ ด้วยท่ายืนและท่าทางที่ดูเป็นหัวหน้าห้อง ออกแนวเจ้าแม่ แรงๆ ภาพของปนัดดาค่อนข้างจะเป็นอย่างนั้น แล้วก็เป็นภาพที่ทีมงานเขาอยากให้เป็นด้วย แต่เวลาตอบคำถามจะตอบสไตล์อ้อนเล็กๆ มีความกวนอยู่พอสมควร บุคลิกจะมีความเป็นเจ๊หน่อย ไม่ใช่แนวน่ารักเหมือนโพนี่หรือจิ๊จ๊ะเหมือนฟินิกส์ และด้วยความที่เราเป็นพิธีกร เป็นนักแสดง คนคุ้นกับเสียงของเรา บุ๋มจึงเลือกที่จะร้องเพลงภาษาอังกฤษหมดเลย แอบไปอ่านในหลายๆ คอมเม้นท์ถามว่าทำไมมังกรไม่ร้องเพลงไทยบ้างล่ะ โอ้โห! พูดไป 3 คำก็รู้ละว่ามังกรคือใคร เพราะทุกคนได้ยินเสียงเราทุกวัน ออกมาบอก ‘อะไรดีบุ๋มก็ว่าดี’ ทุกหัวเทปอย่างงี้ บุ๋มทำพิธีกร 7 รายการ ไหนจะวิทยุ ไหนจะสัมภาษณ์ ไหนจะมีข่าว เสียงบุ๋มออกอากาศทุกวัน ดังนั้นถ้าร้องเพลงไทยรู้เลยค่ะ
Image may be NSFW.
Clik here to view.
เบื้องหลังอันยากเย็นของหน้ากากมังกร
การไปแข่งรายการนี้ทุกคนในครอบครัวรู้นะคะว่าเป็นเรา คือต้องรู้ เพราะอัดรายการถึงตี 4 ไม่งั้นหายไปแบบไม่บอกกล่าวมีบ้านแตกค่ะคุณ ดังนั้นคนในบ้านมี 4 คนมีพี่สาว อันดามัน (ลูกสาว) เอก (สามี) ตัวบุ๋มเองก็จะรู้ และมีเลขา รวมถึงคนขับรถ ซึ่งทางรายการจับเซ็นสัญญาหมด ถ้าความลับหลุดคือโดนปรับสองแสน พอไปถึงรายการเขาจะมีหน้ากาก มีชุดคลุมมาให้ใส่ตั้งแต่ในรถ ทั้งตัวบุ๋มเองและผู้ติดตาม ต้องใส่หน้ากากและเสื้อคลุมทุกคน จากนั้นจะมีทีมงานประกบ พาไปที่ห้องแต่งตัว ซึ่งแต่ละหน้ากากจะอยู่แยกห้องกัน มีทีมงานสเตจมาบรีฟ ซึ่งเขาก็ไม่รู้ว่าเราเป็นใคร รู้แต่ว่านี่คือพี่มังกร บอกอะไรมาเราก็ได้แต่พยักหน้าโอเคแบบไม่ออกเสียง คือโหดมาก แล้วแต่ละเทปถ่ายทำถึงตี 4 เรามีงานพิธีกรที่ต้องไปทำอีก 7 งาน ก็ต้องทำตาใสไป บอกใครไม่ได้ว่าไปทำอะไรมา
Image may be NSFW.
Clik here to view.
ฝ่าด่านสุดหินไปเป็น 4 คนสุดท้าย
ที่ผ่านมามีแอบไปเรียนร้องเพลงหลายครูมาก แต่เรียนมาตั้งแต่ก่อนแต่งงานแล้ว ดังนั้นที่บ้านรวมถึงเลขาจึงไม่มีใครรู้ว่าเราเคยเรียนอะไรมาบ้าง และจริงจังกับการร้องเพลงแค่ไหน แต่ก่อนที่จะไปร่วมรายการห่างหายจากการเรียนไปนานจึงทำได้แค่เอาเทคนิคที่เคยเรียนมาแอบฝึกในห้องน้ำ แต่ละเพลงร้องวนอยู่อย่างนั้นเป็นพันๆ รอบ ต้องซ้อมให้หนัก เพราะเราไม่ใช่นักร้อง
ส่วนการหลบหลีกการเดาของกรรมการและคนดู รอบแรกรอบสองยังไม่เท่าไร เพราะทุกคนยังคิดว่าเราเป็นมัม ลาโคนิกอยู่ แต่พอมารอบ 3 ซึ่งห่างจากรอบที่แล้ว 2 เดือน ก็มีนักสืบพันทิปเกิดขึ้น กรรมการจึงเริ่มมองว่าเป็นบุ๋ม-ปนัดดา บอกเลยว่านักสืบพันทิพน่ากลัวมาก และที่น่ากลัวที่สุดอีกคนคือพี่หนึ่ง-จักรวาล เพราะบังเอิญว่าระหว่างที่เทป 1-2 ออกอากาศ บุ๋มต้องสัมภาษณ์พี่หนึ่งบ่อยมาก เจอกันหลายรายการ พอนั่งคุยเสียงก็เริ่มชัด คุยไปคุยมาพี่หนึ่งก็ถามว่ามังกรใช่ไหม บุ๋มนี่แขนชาเลย แล้วพอมาแข่งรอบ 3 แสบมาก แกโทรไปหาพี่มัม ลาโคนิค แล้วพี่มัมดันบอกว่าอยู่เชียงใหม่ ก็เลยโป๊ะแตก จากนั้นมาก็ทายว่าเป็นบุ๋ม-ปนัดดากันยาวเลย ช่วงนั้นจึงอึดอัดมาก เพราะความเป็นตัวตนเราชัด แล้วเราโกหกไม่เก่ง ไม่รู้จะตอบอะไรยังไง ก็เลยเหมือนเริ่มกรรมการเริ่มถามจี้เรามากขึ้น
สู้สุดใจในฐานะนักแสดงหนึ่งเดียวในหมู่นักร้อง
พอรู้ว่าเข้ารอบสี่คนสุดท้ายก็ถอดใจเลย ยิ่งตอนนี้ที่ซ้อมร้องเพลงยินดีที่ไม่รู้จัก แล้วเราได้ยินเทคนิคของแต่ละคน ก็รู้เลยว่าที่เหลือเป็นนักร้องหมดเลย แล้วเรามาทำอะไรตรงนี้เนี่ย ดังนั้นพอวันแข่งจึงเลือกร้องเพลง The Impossible Dream เพราะการมาเป็นสี่คนสุดท้ายของเวทีนี้คือความฝันอันยิ่งใหญ่ คือฝันที่เป็นไปไม่ได้สำหรับบุ๋ม แต่เราก็สู้เพื่อมัน แล้วเราก็รู้ว่าเมื่อต้องแข่งกับอีกาซึ่งแฟนคลับเขาเยอะ แล้วเขาก็เก่ง เป็นคู่แข่งที่น่ากลัว เราไม่มีทางสู้ได้อยู่แล้ว ก็เลยขอปล่อยของจริงๆ ไปเลยดีกว่า ด้วยการร้องแบบเวอร์ชั่นผสมโอเปร่า ซึ่งพอได้ร้องแล้วก็รู้สึกดีมากค่ะ ถือว่าเราได้พยายามตามฝันของเราแล้ว
Image may be NSFW.
Clik here to view.
ผลลัพธ์หลังถอดหน้ากาก ดีหรือเฟล?
บุ๋มอยู่ในวงการมา 17 ปี ตอนเป็นนางสาวไทยก็ถือว่าเปลี่ยนชีวิตมารอบหนึ่งแล้ว ได้เป็นดารา เป็นนักแสดง เป็นพิธีกร ผู้ประกาศข่าว ดีเจ คอลัมนิสต์ ถ่ายแบบขึ้นปกนิตยสารก็ทำมาแล้ว แต่ไม่เคยเจอกระแสคนมากรี๊ด มารักเรามากขนาดนี้ รายการนี้ทำให้คนรักบุ๋มเยอะขึ้นมาก หลังจากถอดหน้ากากมีคนตามฟอลโลว์ไอจีเพิ่มวันเดียวแสนกว่า ไปร่วมงานที่ห้างก็มีแต่คนเรียกมังกร กรี๊ด ขอลายเซ็น ขอถ่ายรูป เหมือนเราเป็นนักร้อง แล้วก็มีคนให้โอกาสด้านการร้องเพลงมากขึ้น มีงานร้องเพลงเข้ามา มีอะไรที่กำลังจะเติบโตในด้านการร้องเพลง ซึ่งพอเขาเปิดโอกาสพี่ก็กระโดดเข้าหาโดยที่ไม่ถามเลยว่าจะเจออะไรบ้าง เพราะเราอยากร้องอยู่แล้ว การร้องเพลงทำให้บุ๋มมีความสุข เวลาไปเป็นพิธีกรในงานต่างๆ คุณจะเห็นบุ๋มถือไมค์ ถือสคริปท์ แล้วร้องเพลงอยู่หลังเวทีตลอด นี่คือบุ๋ม บุ๋มฝึกร้องเพลงทุกวัน แม้จะไม่ใช่นักร้องที่ดีที่สุด แต่บุ๋มว่าบุ๋มมีความพยายามมากที่จะได้ทำในสิ่งที่รัก
Image may be NSFW.
Clik here to view.
ถ้าไม่เป็นหน้ากากมังกร
ถ้าไม่ใช่มังกรเคยคิดว่าจะเป็นหน้ากากปูนึ่ง ซึ่งเป็นชื่อหมาที่บ้าน แต่มีคนบอกว่าถ้าเป็นหน้ากากปูนึ่งคนดูต้องรู้แน่ๆ เพราะปูนึ่งก็มีแฟนคลับของเขาอยู่
หน้ากากที่อยากฟีตเจอริ่งด้วย
อีกาก็มันที่สุดแล้วนะ เพราะเป็นแนวว้ากเหมือนกัน แต่ก็อยากจะร้องกับหน้ากากเพชร เป้ วงมายด์ เพราะรอบแรกเขาร้อง I don’t want to miss a thing ของแอร์โร สมิทได้ดีมาก รู้สึกว่าผู้ชายคนนี้เก่ง เลยอยากจะร้องคู่กับเขา
ถ้ามังกรจะมีอัลบั้มเป็นของตัวเอง
ต้องเป็นแนวดิว่าค่ะ เพราะเสียงเราเป็นแนวนั้น แล้วก็เป็นเพลงชัดๆ ทั่วๆ ไป ไม่ต้องมานั่งเปลี่ยนเสียงตัวเองมาก ออกแนวบรอดเวย์ ละครเวทีเล็กๆ ชอบแบบนั้น
Image may be NSFW.
Clik here to view.
กรรมการที่ได้ใจที่สุด
พี่หนึ่ง จักรวาล หูดีมาก หนีลำบาก น่ากลัวมาก คือหูจะเทพไปไหนคะ แล้วก็ทวงสัญญาด้วยที่บอกว่าพี่หนึ่งจะทำเพลงให้ นี่คือความฝันที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตเลย อยากบอกว่า พี่หนึ่งคะ บุ๋มพร้อมแล้วค่ะ
ภาพจาก Instagram : boompanadda
เรื่องที่น่าสนใจอื่นๆ
เปิดหน้ากาก แล้ว โค-ต-รเซอร์ไพร้ส์ มีใครบ้างไปดูกัน!
รวมดราม่า The Mask Singer หน้ากากฟีเวอร์ทั่วประเทศ!
หลากเหตุผลว่าทำไมคนถึงรัก เป๊ก-ผลิตโชค ?
40 up ยังแจ๋ว! อายุเกิน 40 แล้วก็ยังอวดหุ่นแซ่บได้อยู่!
The post เปิดหน้ากากเมาท์ “มังกร” คุณแม่พลังเสียงโอเปร่า appeared first on SUDSAPDA.COM.