BLACKPINK เปิดใจถึงการเป็นศิลปิน K-POP รายแรกที่มีสารคดีผ่าน Netflix ถัดจาก 3 นักร้องดังระดับโลก

ก่อนจะได้ชมสารคดีของ BLACKPINK ในวันที่ 14 ตุลาคมนี้ สาวๆ ทั้ง 4 คนได้แท็กทีมกันมาเปิดใจถึงการทำสารคดีครั้งแรกในชีวิตของพวกเธอและยังเป็นครั้งแรกของศิลปินเคป๊อปที่ทำสารคดีร่วมกับ Netflix หลัง Beyoncé, Lady Gaga และ Taylor Swift เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2020

สารคดีของ BLACKPINK กับการเปิดเผยทุกเรื่องราวที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

สารคดี BLACKPINK : Light Up the Sky จะเปิดเผยเรื่องราวของBLACKPINK นับตั้งแต่เป็นเด็กฝึกหัด ไปจนถึงวันที่พวกเธอเดบิวต์ แล้วกลายเป็นเกิร์ลกรุ๊ปชื่อดังระดับโลก เรียกว่าจะได้เห็นตั้งแต่ภาพตอนเด็ก ตอนเป็นเด็กฝึก ตอนเดบิวต์ ชีวิตในหอพัก ไปจนถึงเบื้องหลังเวทีด้วย กำกับโดย แคโรไลน์ ซอ

สารคดีเรื่องใหม่ล่าสุดของ BLACKPINKกำลังจะได้ฉายใน 190 ประเทศทั่วโลก ผ่านทาง Netflix คุณรู้สึกอย่างไร

โรเซ่ : พวกเราทุกคนดู Netflix แล้วเราก็รู้สึกเป็นเกียรติมากๆ ที่สารคดีของเราจะได้ฉายออกอากาศทาง Netflix แล้วก็ตื่นเต้นมากๆ เพราะสารคดีเรื่องนี้มีทั้งเบื้องหลัง ความกดดัน ความรักจากแฟนๆ และที่สำคัญ เรามีเซอไพรซ์ด้วย พรุ่งนี้ ทุกคนจะสามารถเลือกหน้าเราทั้ง 4 คน ตั้งเป็น profile ใน Netflix ของทุกคนได้แล้ว

จีซู : ฉันเริ่มโปรเจ็กต์นี้ด้วยใจที่คิดว่าอยากจะแสดงความจริงใจของตัวเองออกไป เพื่อให้ทุกคนได้รู้จักพวกเรามากขึ้น ฉันได้ให้สัมภาษณ์และพูดคุยในสารคดีอย่างจริงใจ ฉันสามารถมองย้อนกลับไปในช่วงเวลาที่ผ่านมาของพวกเรา โดยเราตั้งใจจะแบ่งปันสิ่งต่างๆ ในสารคดีนี้ให้กับทุกคนค่ะ

ลิซ่า: ฉันแทบอยากจะเปลี่ยนไอคอนบนโปรไฟล์ Netflix ของฉันเดี๋ยวนี้เลย

BLACKPINKไมค่อยได้ปรากฏตัวในวาไรตี้โชว์ หรือเรียลลิตี้โชว์มากนัก สารคดีอันนี้ถือเป็นความท้าทายใหม่ของพวกคุณ รู้สึกอย่างไรบ้าง?

เจนนี่ : พวกเราคิดเสมอว่าจะเปิดเผยเรื่องราวเหล่านี้ต่อสาธารณะอย่างไร ซึ่งฉันคิดว่าเป็นเรื่องดีๆ ที่เราจะได้แบ่งปันภาพลักษณ์ของเราให้กับแฟนๆ และทุกๆ คน การได้มีโอกาสมาร่วมกับผู้กำกับแคโรลิน ที่เป็นผู้กำกับที่เก่งมาก และยังตัดสินใจ รวมถึงดำเนินการต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว เราทำงานกันอย่างใกล้ชิดมากๆ กับผู้กำกับของเรา หวังว่าในวันพรุ่งนี้ที่สารคดีจะปล่อยออกมาจะออกมาดี ฉันตื่นเต้นมากๆ ค่ะ เราตั้งตารอคอยที่จะได้ชมผลงานสารคดีชิ้นนี้อย่างใจจดใจจ่อเลยค่ะ สารคดีเรื่องนี้จะเป็นเหมือนของขวัญให้ BLINK ทุกคน หวังว่าสารคดีนี้ จะเป็นสะพานที่ช่วยเชื่อมระหว่างเราและแฟนๆ BLINK ไว้ด้วยกันค่ะ

ลิซ่า: การถ่ายทำเนื้อหาเรียลลิตี้ไม่ใช่เรื่องแรก แต่งานนี้เป็นสารคดีอันแรกของพวกเรา ฉันไม่ได้รู้สึกว่ามีส่วนไหนที่ยากเป็นพิเศษนะคะ พวกเราทุกคนสนุกกับมันมาก เราตื่นเต้นกันมากๆ ที่จะได้ชมในวันพรุ่งนี้และหวังว่าทุกคนจะชื่นชอบ

พวกคุณถือว่าเป็นศิลปินเคป๊อปรายแรกเลยที่มีโอกาสได้ปล่อยสารคดีผ่าน Netflix หลังจากก่อนหน้านี้ Netflix เคยผลิตสารคดีของ Beyoncé, Lady Gaga และ Taylor Swift ออกมา รู้สึกยังไงบ้าง

จีซู : รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งเลยค่ะ ที่มีโอกาสได้ทำสารคดีร่วมกับ Netflix ยิ่งก่อนหน้านี้มีแต่รายชื่อของนักร้องระดับโลก ทำให้พวกเราทั้ง 4 คน พยายามอย่างมากกับการเปิดเผยเรื่องราวต่างๆ ผ่านสารคดีให้ดีขึ้นและไม่ปิดบังอะไรเลย โดยต้องการส่งเรื่องราวต่างๆ และข้อความที่ต้องการสื่อไปให้แฟน ๆ และสาธารณชนผ่านสารคดีนี้ค่ะ

โรเซ่ : ปกติแล้วฉันจะชอบดู Netflix อยู่แล้ว ดังนั้นจึงรู้สึกเป็นเกียรติและความตื่นเต้นที่ได้ทำสารคดีออกมา ฉันมีความสุขมากและแอบกังวลที่มีหลายคนชื่นชมฉันค่ะ

ในสารคดีBLACKPINK : Light Up the Sky เราจะได้เห็นอะไรบ้างคะ

เจนนี่ : เรียกว่าเป็นความรู้สึกใหม่ๆ ที่ฉันต้องเผชิญกับภาพเก่าที่แอบลืมไปชั่วขณะ นับตั้งแต่เด็กฝึกหัดจนถึงวันหลังเดบิวต์ ฉันทำงานหนักมาก และมีภาพที่สวยงามมากมาย แต่ในสารคดีฉันต้องการเปิดเผยชีวิตประจำวันที่ธรรมดาของพวกเรา ซึ่งจะทำให้พวกเรากับทุกคนใกล้ชิดกันมากขึ้น และฉันคิดว่า บลิ๊งค์ต่างรอคอยช่วงเวลาที่จะได้ชมสารคดีของพวกเรามานาน หวังว่าพวกคุณจะได้ชมเรื่องราวของเราด้วยกันกันมีความสุขนะคะ

จีซู : ในสารคดีมีซีนที่เทศกาลดนตรีโคเชลลาด้วย ฉันเชื่อว่าแฟนๆ น่าจะเคยดูโชว์เราบนเวทีแล้ว แต่มีซีนหลังเวทีที่ยังไม่มีใครเคยเห็น ฉันดีใจมากๆ ที่มันอยู่ในสารคดีเรื่องนี้ด้วย แล้วมันอเมซิ่งมากๆ ที่เราเคยซ้อมทำโชว์โคเชลลาตอนที่ยังเป็นศิลปินฝึกหัด ไม่คิดเลยว่าเราจะได้ขึ้นโชว์จริงๆ

แอบรู้ว่าในสารคดียังมีความน่าสนใจอีกอย่าง คือมีการพูดคุยเป็นหลายภาษามาก

โรเซ่ : ใตอนที่ถ่ายซีนสัมภาษณ์ เราจริงใจกันมากๆ เปิดใจ เปิดความคิด พวกเราจะพูดในภาษาที่สบายใจ มีหลายภาษาเลยค่ะ ลิซ่าพูดภาษาไทย จีซูภาษาเกาหลี ฉันกับเจนนี่โตในต่างประเทศก็จะพูดทั้งเกาหลี-อังกฤษ เราได้พูด ได้แสดงออกในภาษาที่เราถนัด ผู้ชมจะได้เห็นถึงความแตกต่างหลากหลาย ซึ่งมันเป็นสัญลักษณ์ความเป็น BLACKPINKที่ผสมผสานความหลากหลาย และมันคือตัวเราทุกคน เราเชื่อว่าแฟนๆ จะชอบค่ะ

เจนนี่: ถึงแม้เราจะสื่อสารกันหลากหลายภาษา แต่เราทุกคนเข้าใจกันเป็นอย่างดี ภาษาไม่ได้เป็นอุปสรรคเลย We’re the world

อยากรู้ว่าการถ่ายทำสารคดีเป็นอย่างไรบ้าง

ลิซ่า : นี่เป็นครั้งแรกที่ถ่ายทำสารคดีแบบที่มีกล้องและทีมงานติดตาม 24 ชั่วโมง แรกๆ ฉันรู้สึกประหม่ามาก แต่สักพักก็เริ่มชิน ยิ่งถ่ายทำไปนานๆ เรายิ่งเป็นธรรมชาติ และสนุกไปกับการถ่ายทำ เพราะผู้กำกับน่ารัก และเป็นกันเองมากๆ เรื่องนี้ต้องขอบคุณผู้กำกับมากที่เตรียมตัวในการทำงานอย่างดี และทำให้เราได้เป็นตัวเราเองจริงๆ

ในสารคดี นอกจากพวกคุณ ยังมี Teddy ซึ่งเป็นโปรดิวเซอร์ของ YG ด้วยใช่ไหมคะ

จีซู : Teddy เป็นคนที่เก่งมากค่ะ เค้ารับฟัง เข้าใจ และสามารถสะท้อนสิ่งต่างๆ ออกมาเป็น direction ของวงได้ อาจจะเรียกว่าเขาเป็นสมาชิกคนที่ 5 ของวงก็ว่าได้ เขามีความสำคัญและจำเป็นต่อวงของเรามากๆ ค่ะ

ช่วยเล่าถึงความเป็น BLACKPINKในสารคดีเรื่องนี้หน่อย

แคโรไลน์ : พวกเขาเป็นเหมือนทั้งเพื่อนและครอบครัว

เจนนี่: เราอยู่ด้วยกัน ทำงานด้วยกันมาตั้งแต่เป็นศิลปินฝึกหัด เห็นการเติบโตของกันและกัน แบ่งปันความรู้สึก ช่วยเหลือกัน เราเหมือนเป็นครอบครัวจริงๆ ที่มีความผูกพัน รู้สึกสบายใจ เป็นตัวของตัวเองได้เมื่ออยู่ด้วยกัน และเราดึงส่วนที่ดีของกันและกันออกมา

พอได้มาทำงานกับBLACKPINK รู้สึกยังไงบ้างคะ

ผู้กำกับ : ฉันไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับ K-pop ฉันได้เรียนรู้เกี่ยวกับ K-pop จากหลานชายที่เรียนอยู่ไฮสคูล และในฐานะคนเกาหลี – อเมริกัน ฉันสนใจเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับเกาหลีอยู่บ้าง พอฉันได้รับโปรเจ็กต์ ฉันคิดว่ามันน่าสนุกดีค่ะ ฉันอยากจะบอกทุกคนว่าพวกเธอมีเส้นทางในวงการเพลงอย่างไร ตั้งแต่เด็กจนกระทั่งมาเป็นBLACKPINK เป็นโปรเจกต์ที่สนุกมาก BLACKPINKเป็นวงที่ทำงานด้วยแล้วสนุก สารคดีนี้ก็จะเป็นสารคดีที่สนุก เป็นเรื่องราวที่ดูแล้วรู้สึกถึงพลังบวก สาวๆ BLACKPINKก็มีเสน่ห์มาก และฉลาดมากๆ ด้วยค่ะ