เรื่องราวที่ไม่มีใครรู้ของซอลลี่ ถูกถ่ายทอดออกมาผ่านสารคดี!

เกือบ 1 ปีกับการจากไปของ ซอลลี่ ที่กลายเป็นเรื่องราวที่ทำให้ชาวเกาหลีได้ตระหนักถึงเรื่องการคอมเมนต์ในเชิงลบที่สร้างบาดแผลให้คนอื่นได้ จนนำไปสู่การเป็นโรคทางจิตใจ ล่าสุดทาง MBC ก็ตัดสินใจทำสารคดีเกี่ยวกับซอลลี่ออกมา

ซอลลี่ กับเรื่องราวการเข้าสู่วงการตั้งแต่เด็กจากปากของคุณแม่

MBC ได้ออกอากาศสารคดีของซอลลี่ในชื่อว่า “ทำไมซอลลี่ถึงรู้สึกไม่สบายใจ” เมื่อวันที่ 10 กันยายนที่ผ่านมา โดยถ่ายทอดเรื่องราวของซอลลี่ผ่านการบอกเล่าของคนใกล้ตัว ซึ่งคนที่มาเล่าเรื่องราวของซอลลี่ คือคุณแม่ และทิฟฟานี่ สมาชิก Girls ’Generation ซึ่งเป็นรุ่นพี่ร่วมค่าย SM ที่เห็นซอลลี่มาตั้งแต่เด็ก

คุณแม่ของซอลลี่ได้มาเล่าเรื่องราวในวัยเด็กของซอลลี่เป็นครั้งแรกผ่านสารคดีนี้ โดยคุณแม่ได้เล่าว่าเธอและสามีหย่ากันตอนที่ซอลลี่อายุ 6 ปี (สากล) ตอนที่อยู่ปูซาน คุณแม่เคยส่งซอลลี่เรียนการแสดง ซึ่งหลังจากซอลลี่เรียนไปได้ 6 เดือน ค่าใช้จ่ายที่ใช้ในการเรียนสูงมาก จนเงินหมด แต่ซอลลี่ร้องไห้พร้อมบอกคุณแม่ว่าเธออยากเรียนการแสดง และคุณแม่เองก็คิดว่าลูกสาวจะทำได้ดีถ้าไปที่โซล ซอลลี่จึงไปร่วมออดิชั่นเพื่อเล่นซีรี่ย์ และซอลลี่ก็ได้รับเลือกให้เล่นซีรี่ย์เกาหลีเรื่อง Ballad of Seodong ซึ่งผู้กำกับชื่นชมการแสดงของซอลลี่ พร้อมบอกว่าเธอมีความสดใสเหมือนกับเจ้าหญิง

การที่ได้ร่วมแสดงในเรื่องนี้ ทำให้ SM ติดต่อเข้ามา พร้อมระบุว่าจะทำให้ซอลลี่เป็นดาราดังของ SM ซอลลี่จึงเริ่มต้นชีวิตในการเป็นเด็กฝึกหัดตั้งแต่เด็ก ซึ่งต้องไปอาศัยอยู่ในหอพักตั้งแต่เรียนอยู่แค่ชั้นป.5

ทิฟฟานี่ซึ่งเป็นรุ่นพี่ที่เคยอาศัยอยู้ในหอพักร่วมกับซอลลี่ก็ได้มาเปิดเผยเรื่องราวและความรู้สึกที่มีต่อซอลลี่ ซึ่งซอลลี่เคยพูดในรายการทีวีเมื่อปี 2011 ว่าแทยอนและทิฟฟานี่เป็นคนที่คอยดูแลเธอ ซอลลี่รู้สึกขอบคุณทั้งสองคนมาก

ด้านทิฟฟานี่บอกว่าตอนที่เจอซอลลี่ครั้งแรก ตอนนั้นซอลลี่เป็นนักแสดงเด็กที่มีชื่อเสียงอยู่แล้ว และเมื่อเธอดูคลิปเก่าๆ ที่เคยไปออกรายการด้วยกัน ทำให้เธอตระหนักว่า ทุกคนบนโลกนี้ล้วนต้องการการดูแลช่วยเหลือรวมทั้งตัวเธอเองด้วย

อีกหนึ่งเรื่องราวที่ไม่มีใครรู้และเชื่อว่าหลายๆ คนอาจจะสงสัยว่าซอลลี่เริ่มต้นเส้นทางในวงการบันเทิงด้วยการเป็นนักแสดง ทำไมถึงไปเดบิวต์เป็นสมาชิกเกิร์ลกรุ๊ปได้ คุณแม่เล่าว่าเดิมทีซอลลี่เซ็นสัญญากับ SM ในฐานะนักแสดง แต่หลังเรียนจบชั้นประถม ซอลลี่ก็สูงขึ้นมากจนเกิน 170 เซนติเมตร ทำให้สถานะการเป็นนักแสดงเด็กของซอลลี่เริ่มคลุมเครือทันทีเพราะเธอสูงมาก และยังมีปัญหาเรื่องการเพิ่มน้ำหนักอีกด้วย เพราะความสูงที่มากขึ้น ทำให้การเป็นนักแสดงเด็กไม่ค่อยชัดเจน SM จึงเสนอให้ซอลลี่ไปสายไอดอลแทน

หลังจากซอลลี่เดบิวต์ เธอก็ต้องเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบากและคำคอมเมนต์ในแง่ร้ายหลายครั้ง ทั้งเรื่องความรัก หรือแม้กระทั่งการโพสต์อย่างอิสระและแสดงทัศนคติในเรื่องการโนบรา ซึ่งเธอเคยพูดประเด็นนี้ไว้ว่า เธอคิดว่าชุดชั้นในเป็นเพียงเครื่องประดับ ซอลลี่ต้องการจะลบอคติในเรื่องการโนบรา แถมเธอยังบอกอีกว่าเธอใช้แผ่นซับที่ทำจากผ้าฝ้ายมาใส่เป็นผ้าอนามัย เพราะผู้หญิงควรได้ใช้ของที่ดีเวลาเป็นประจำเดือน ซอลลี่ไม่ใช่แค่พูดแต่ซอลลี่ยังบริจาคแผ่นซับให้กับวัยรุ่นที่ด้อยโอกาสกว่า 500 ล้านวอน (แปลงเป็นเงินไทย ณ วันที่ 11 กันยายน 2020 เท่ากับ 13 ล้านบาทไทย) อีกด้วย

ทิฟฟานี่ได้พูดถึงประเด็นนี้ทำนองว่า เธอรู้สึกนับถือความกล้าและการแสดงออกอย่างอิสระของซอลลี่ โซเชียลมีเดียเป็นพื้นที่ที่ทำให้คนดังได้แสดงออกอย่างอิสระและรู้สึกผ่อนคลาย

นอกจากนี้ คุณแม่ยังเล่าอีกว่าในตอนที่ความสัมพันธ์ของซอลลี่กับคนรักจบลงไม่นาน คุณแม่ได้รับสายจากค่ายว่าซอลลี่ทำร้ายตัวเอง ตอนนั้นคุณแม่ไม่สามารถไปที่โรงพยาบาลได้ คุณแม่รู้สึกว่านั่นเป็นการพยายามครั้งสุดท้ายของซอลลี่ มันคงเป็นเรื่องยากในการจัดการสิ่งเหล่านั้น ในวันที่ผู้ชายที่รักจากไปและแม่ไม่ได้อยู่เคียงข้างตัวเอง ซึ่งสอดคล้องกับคำสัมภาษณ์ของซอลลี่ที่เคยพูดไว้ประมาณว่า เธอคิดว่าคนอื่นก็มีความยากลำบากที่ต้องผ่านไปและกำลังยุ่งกับการปกป้องตัวเองเหมือนกัน เธอเคยยื่นมือขอความช่วยเหลือจากคนอื่น แต่ไม่มีใครคว้ามือเธอไว้ นอกจากนี้ซอลลี่ยังเคยพูดไว้อีกว่า เธอทำงานตั้งแต่เด็ก แต่ทุกคนมองว่าเธอเป็นผู้ใหญ่แล้ว ทำให้ไม่มีใครฟังเธอ

คุณแม่บอกว่าหลังซอลลี่เสียชีวิต คุณแม่พบถุงยาจำนวนมากในบ้านของซอลลี่ การที่ต้องอยู่บนเวทีทำให้ซอลลี่กลายเป็นโรคแพนิคและโรคซึมเศร้า คุณแม่บอกว่าเสียใจมากที่เธอมารู้เรื่องราวในตอนนี้ และคุณแม่รู้สึกเสียใจที่ไม่สามารถบอกลาซอลลี่เป็นครั้งสุดท้าย รู้สึกขอโทษที่มาช้าไป