ในวงการแฟชั่นระดับโลก คาร์ล ลาเกอร์เฟลด์ (Karl Lagerfeld) คือไอค่อนระดับตำนาน ผู้มีอิทธิพลและสร้างความเปลี่ยนแปลงมากมายให้กับแฟชั่นทั่วโลก แต่เมื่อวาน (19 ก.พ.) คาร์ลได้จากไปแบบไม่มีวันกลับ สร้างความเสียใจให้กับผู้คนในวงการแฟชั่น และแฟนคลับมากมายทั่วโลก เราจึงขอย้อนกลับไปชื่นชมความเปลี่ยนแปลงมากมาย ที่คาร์ลสร้างไว้แก่โลกแฟชั่นกันค่ะ
ย้อนตำนาน คาร์ล ลาเกอร์เฟลด์ ดีไซเนอร์อัจฉริยะ ผู้เปลี่ยนโฉมหน้าโลกแฟชั่น
ได้เป็นผู้ช่วยของปิแอร์ บัลแมง (Pierre Balmain) ตั้งแต่อายุ 17
ฉายแววความอัจฉริยะด้านการสร้างสรรค์แฟชั่นตั้งแต่อายุ 17 ปีเท่านั้น ในตอนนั้นคาร์ลชนะการประกวดด้านการออกแบบจาก International Wool Association ด้วยแบบดีไซน์เสื้อโค้ท ซึ่งนอกจากจะชนะการประกวดดังกล่าวแล้ว ฝีมือการออกแบบของเขายังสะดุดตาปิแอร์ บัลแมง ดีไซเนอร์ระดับตำนาน ทำให้ปิแอร์รับคาร์ลมาทำงานเป็นผู้ช่วยตั้งแต่อายุ 17 ปีเท่านั้น แถมดีไซน์เสื้อโค้ทตัวดังกล่าวยังได้รับการผลิตจำหน่ายจริงอีกด้วย
คาร์ลสมัยชนะการประกวด
ดำรงตำแหน่ง Art Director ตั้งแต่อายุ 19 ปี และเป็นฟรีแลนซ์คนแรกของวงการแฟชั่น
เมื่ออายุเพียง 19 ปีเท่านั้นคาร์ลได้ย้ายมาทำหน้าที่ที่สำคัญมากในวงการการออกแบบนั่นก็คือ Art Director ของห้องเสื้อ Jean Patou หลังจากนั้น 5 ปี เขาก็ได้ปฎิวัติการทำงานในวงการแฟชั่น ด้วยการประกาศตัวเป็นฟรีแลนซ์คนแรก และรับงานให้ห้องเสื้อต่างๆทั้งที่ฝรั่งเศส, อังกฤษ, อิตาลีและเยอรมนี โดยแบรนด์ดังที่ร่วมงานกับเขาก็มีตั้งแต่ วาเลนติโน่ (Valentino) และโคลเอ้ ( Chloé)
คาร์ลสมัยร่วมงานกับ Jean Patou
การร่วมงานกับเฟนดิ (Fendi) กว่า 54 ปี
ในตอนแรกนั้นทางแบรนด์ต้องงานร่วมงานกับเขาในการผลิตเฟอร์ และภายในปีแรกเขาก็นำขนกระรอกและขนกระต่ายมาเป็นชิ้นเฟอร์หลักในการออกแบบของเขา ซึ่งไม่เคยมีใครทำมาก่อนในวงการแฟชั่น จนกลายเป็นกระแสฮือฮาในยุคนั้น และคาร์ลยังเป็นดีไซเนอร์คนแรกๆที่นำเฟอร์มาประดับในเสื้อผ้าสำหรับใส่ทั่วไป เพราะในยุคนั้นทุกคนจะนิยมใส่เฟอร์เฉพาะโอกาสสำคัญเท่านั้น และหลังจากประสบความสำเร็จในการออกแบบดังกล่าว คาร์ลก็ร่วมงานกับเฟนดิเรื่อยมาตลอด 54 ปี ในฐานะ Creative Director แผนกเสื้อผ้าผู้หญิงและขนเฟอร์
คาร์ลเป็นดีไซเนอร์คนแรกที่ผลิตน้ำหอมโดยไม่มีแบรนด์เป็นของตัวเอง
ก่อนหน้ายุคของคาร์ล หากดีไซเนอร์คนไหนต้องการผลิตน้ำหอมของตนเองออกมา ก็ต้องผลิตใต้แบรนด์ใหญ่ แต่ด้วยพลังแห่งความสร้างสรรค์ของคาร์ล ก็ทำให้แบรนด์ที่เขาทำงานต้องยอมผลิตน้ำหอมให้แก่เขา ซึ่งแบรนด์ที่ว่านี้คือ โคลเอ้ (Chloé) ซึ่งน้ำหอมรุ่นดังกล่าวมีการสลักคำว่า “Parfum Lagerfeld ” ไว้ใต้ขวดเป็นการประกาศว่ากลิ่นดังกล่าวสร้างสรรค์โดยคาร์ล ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายๆที่แบรนด์ใหญ่จะทำให้ดีไซเนอร์คนไหน
การชุบชีวิตแบรนด์ชาแนล (Chanel) และเป็นดีไซเนอร์คู่บุญตั้งแต่นั้นมา
หลังจากการจากไปของโคโค่ ชาแนล (Coco Chanel) ในปี 1971 แบรนด์ชาแนลก็เริ่มถดถอยตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เพราะขาดหัวเรือหลักและกระแสโลกแฟชั่นหันไปให้ความสนใจการออกแบบแบบโมเดิร์นมากกว่า จนกระทั่งการเข้ามาของคาร์ลในปี 1983 ซึ่งถือเป็นการชุบชีวิตแบรนด์อย่างแท้จริง
โดยเขาเข้ามาเปลี่ยนภาพลักษณ์แบรนด์ให้มีความโมเดิร์นมากขึ้น อีกหนึ่งสิ่งที่เขาทำจนกลายเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ชาแนลคือการใช้ผ้าทวีดที่มีความหรูหรา มาผสมผสานกับการออกแบบแนวดิบเถื่อน ซึ่งทำให้เกิดภาพลักษณ์ที่แปลกตาแต่คลาสสิค และกลายเป็นสัญลักษณ์สำคัญของแบรนด์ชาแนล
ผ้าทวีดของชาแนล
คาร์ลเคยให้คำนิยามถึงแบรนด์ชาแนล เมื่อเขาเข้ามาทำงานแรกๆว่า “ตอนที่ผมเริ่มงานที่ชาแนล เธอเป็นดั่งเจ้าหญิงนิทรา และเจ้าหญิงพระองค์นี้ก็ไม่ได้ทรงพระสิริโฉมด้วยนะครับ เธอกรนดังเชียว ”
นอกเหนือจากความสำเร็จมากมายที่คาร์ลมอบให้กับแบรนด์ชาแนล คาร์ลยังได้มอบดีไซน์โลโก้ใหม่ให้กับแบรนด์ เป็นตัว C ไขว้กัน และกลายเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์สำคัญแห่งโลกแฟชั่น
สัญลักษณ์อันเป็นเอกลักษณ์ของชาแนล
เป็นดีไซเนอร์ขวัญใจดาราและนางแบบทั้งวงการ
ปฎิเสธไม่ได้เลยว่า การทำงานในวงการแฟชั่นนั้นต้องอาศัยดาราและนางแบบมากมาย เพื่อนำเสนอสินค้าของแบรนด์ และคาร์ลเองก็เป็นขวัญใจของบรรดาดาราและนางแบบมากมาย ที่ตบเท้ามาร่วมงานกับคาร์ลจนกลายเป็นเพื่อนสนิทของเขาทั้งคาร่า เดอเลวีญ (Cara Delevingne), คลอเดีย ชิฟเฟอร์ (Claudia Schiffer) ที่เป็นนางแบบคู่บุญของแบรนด์ชาแนลมาตั้งแต่ช่วงปี 80, คริสเท่น สจ๊วต (Kristen Stewart) ที่คาร์ลถูกถูกใจจากบุคลิกแบบขบถของเธอบวกกับสไตล์หนังอินดี้ที่เธอชอบเล่น
คาร์ลและคาร่า
ตั้งแต่ยุค 90 เป็นต้นมา แบรนด์ชาแนลภายใต้การนำของคาร์ล ได้เชิญดาราและนักร้องมาร่วมแคมเปญมากขึ้น เพื่อต้องการให้แบรนด์มีความทันสมัยมากขึ้น ซึ่งดาราและนักร้องที่มาร่วมงานกับคาร์ลก็เป็นระดับซูเปอร์สตาร์ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น นิโคล คิดแมน (Nicole Kidman), เบลค ไลฟ์ลี่ (Blake Lively), เคียร่า ไนท์ลีย์ (Keira Knightley) และออเดรย์ ตอตู (Audrey Tautou) นักแสดงสาวชาวฝรั่งเศสชื่อดังที่คาร์ลไว้ใจถึงขนาดให้รับบทเป็น โคโค่ ชาแนล ในหนังสั้นของแบรนด์
คาร์ลและเบลค
Story by Patricia
Photos from Getty Images, Insider
พบเรื่องราวที่น่าสนใจมากมายได้ที่นี่
ซินเดอเรลล่าแห่งสเปน ราชินีเลติเซีย จากนักข่าวสู่บัลลังก์ราชินี
เจ้าชายสายฮอต! องค์ชาย Constantine Alexios แห่งกรีซ ลูกทูนหัวเจ้าชายวิลเลียม #โตแล้วฮอตมาก
อย่าใส่เลยที่รัก! เจ้าชายแฮร์รี่ ขอเมแกน มาร์เคิล เลิกใส่ ชุดสูทกางเกง
The post ย้อนตำนาน คาร์ล ลาเกอร์เฟลด์ ดีไซเนอร์อัจฉริยะ ผู้เปลี่ยนโฉมหน้าโลกแฟชั่น appeared first on SUDSAPDA (สุดสัปดาห์) - TREND LIFESTYLE AND INSPIRATION.