รวม 10 เรื่องเด่นราชวงศ์อังกฤษ ประจำปี 2018 ตั้งแต่งานอภิเษกสมรส จนถึงพระประสูติกาล

ปี 2018 ถือเป็นปีที่มีเหตุการณ์สำคัญมากมายในราชวงศ์อังกฤษ ที่ควรค่าแก่การจารึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ ไล่ตั้งแต่พระประสูติกาลของเจ้าชายหลุยส์ (Prince Louis of Cambridge) ไปจนถึงงานอภิเษกสมรสของเจ้าชายแฮร์รี่ (Prince Harry, Duke of Sussex) และดัชเชสเมแกน (Meghan Markle, Duchess of Sussex) เราจึงขอรวม 10 เรื่องเด่นราชวงศ์อังกฤษ มาฝากท่านผู้อ่านในโอกาสปลายปีนี้

รวม 10 เรื่องเด่นราชวงศ์อังกฤษ ประจำปี 2018 ตั้งแต่งานอภิเษกสมรส จนถึงพระประสูติกาล

พระประสูติกาลของเจ้าชายหลุยส์

เปิดปี 2018 ด้วยความน่ายินดีเลยทีเดียว เมื่อเจ้าชายวิลเลียม (Prince William,Duke of Cambridge) และดัชเชสเคท (Catherine, Duchess of Cambridge) ทรงมีพระประสูติกาลเจ้าชายหลุยส์ พระราชโอรสองค์ที่สาม ในวันที่ 23 เมษายน ที่โรงพยาบาลเซนท์แมรี่ (St. Mary Hospital) เจ้าชายหลุยส์ทรงมีลำดับการสืบสันตติวงศ์เป็นลำดับที่ 5 และในวันเดียวกันเจ้าชายวิลเลียมก็ทรงขับรถยนต์พระที่นั่งพาดัชเชสเคทและเจ้าชายหลุยส์ กลับพระราชวังเคนซิงตันด้วยพระองค์เอง

และเมื่อเดือนกรกฎาคม เจ้าชายหลุยส์ก็ได้เข้าพิธีรับเข้าเป็นคริสต์ศาสนิกชน (Christening) ตามธรรมเนียมราชสำนักที่วิหารหลวงในเขตพระราชวังเซนท์เจมส์ (St. James palace) โดยในพิธีได้มีการเปิดเผยพ่อแม่บุญธรรมของเจ้าชายหลุยส์หลายคน และส่วนใหญ่จะเป็นพระสหายของเจ้าชายวิลเลียมและดัชเชสเคททั้งนั้น

พิธีอภิเษกสมรสเจ้าชายแฮร์รี่– ดัชเชสเมแกน

หนึ่งในเหตุการณ์ที่มีผู้เฝ้ารอคอยมากที่สุดในโลกงานหนึ่ง คือพิธีอภิเษกสมรสระหว่างเจ้าชายแฮร์รี่และดัชเชสเมแกน มาร์เคิลในวันที่ 19 พฤษภาคม ซึ่งจัดขึ้นในมหาวิหารเซนต์จอร์จ ในเขตพระราชวังวินด์เซอร์ และหลังจากพิธีอภิเษกสมรส ทั้งสองได้ยศเป็นดยุคและดัชเชสแห่งซัสเซกส์ตามลำดับ

เจ้าชายแฮร์รี่และดัชเชสเมแกนพบกันครั้งแรกเมื่อกลางปี 2017 และด้วยความที่มีนิสัยใจคอเหมือนกัน จึงทำให้ทั้งสองตกหลุมรักกันอย่างรวดเร็ว เจ้าชายแฮร์รี่ทรงขอดัชเชสเมแกนหมั้นเมื่อปลายปี 2017 ก่อนจะมีงานอภิเษกสมรสในปีถัดมา ปัจจุบันดัชเชสเมแกนกำลังตั้งครรภ์ทายาทให้แก่เจ้าชายแฮร์รี่ และทั้งคู่มีกำหนดการณ์ที่จะย้ายพระราชฐานไปยังเขตพระราชวังวินด์เซอร์ต้นปีหน้า เพื่อให้รับกับพระประสูติกาลที่มีกำหนดราวฤดูใบไม้ผลิปีหน้าเช่นกัน

ดัชเชสเคทได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ประจำราชวงศ์อังกฤษ

เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ดัชเชสเคทได้ออกงานสำคัญงานหนึ่ง คือการออกรับเสด็จสมเด็จพระราชาธิบดีวิลเลม- อเล็กซานเดอร์แห่งเนเธอร์แลนด์ (King Willem-Alexander of Netherlands) เธอได้สวมเครื่องราชอิสริยาภรณ์ประจำราชวงศ์อังกฤษที่เรียกกันว่า Royal family order ที่ควีนเอลิซาเบธ (Her majesty Queen Elizabeth II of England) จะทรงพระราชทานให้กับสะใภ้หลวงทุกองค์ในเวลาที่เหมาะสม โดยเครื่องราชอิสริยาภรณ์นี้จะมีลักษณะเป็นรูปพระบรมสาทิสลักษณ์ของควีนเอลิซาเบธปักบนริบบิ้นสีเหลือง ซึ่งในอดีต สตรีผู้นั้นต้องใช้เวลาในการพิสูจน์ตนเองพอสมควร ซึ่งดัชเชสเคทก็ถือว่าทำได้ในเวลาอันสั้นคือ 6 ปี เพราะในความเป็นจริงเธอได้รับพระราชทานมาตั้งแต่ปี 2017 แล้ว (ดัชเชสเคทกับเจ้าชายวิลเลียมอภิเกสมรสเมื่อปี 2011) แต่เธอเพิ่งจะเลือกใส่ในปีนี้เอง

ครบรอบ 71 ปีวันอภิเษกสมรสควีนเอลิซาเบธและเจ้าชายฟิลิป

นอกจากควีนเอลิซาเบธจะเป็นประมุขของประเทศที่ทรงครองราชย์ยาวนานที่สุดในโลกพระองค์หนึ่งแล้ว พระองค์ยังทรงมีชีวิตแต่งงานที่ยืนยาวมากอีกด้วย พระองค์ทรงอภิเษกสมรสกับเจ้าชายฟิลิป (Prince Philip, Duke of Edinburgh) มาเกือบ 71 ปีแล้ว และเจ้าชายฟิลิปคือรักแรกและรักเดียวของพระองค์อีกด้วย

ทั้งสองพระองค์พบกันครั้งแรก ตอนที่ควีนเอลิซาเบธยังดำรงพระยศเป็นเจ้าหญิงเอลิซาเบธ เจ้าชายฟิลิปทรงถูกแนะนำให้พบกับเจ้าหญิงเอลิซาเบธและพระขนิษฐา เจ้าหญิงมากาเรต (Princess margaret) เพื่อให้ทรงเป็นพระสหายกัน แต่เจ้าหญิงเอลิซาเบธและเจ้าชายฟิลิปต่างทรงตกหลุมรักกัน จนนำไปสู่พิธีอภิเษกสมรสในเวลาถัดมา ทั้งสองพระองค์ทรงมีทายาทด้วยกัน 4 พระองค์ มีพระราชนัดดา 8 พระองค์ และพระราชปนัดดาอีก 7 พระองค์

ครบรอบ 65 ปี พิธีบรมราชาภิเษกควีนเอลิซาเบธ

ในปีนี้ควีนเอลิซาเบธได้ทรงขึ้นเป็นประมุขของประเทศอย่างเป็นทางการครบรอบ 65 ปีซึ่งถือว่ายาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ราชวงศ์อังกฤษ และทรงกลายเป็นสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมของประเทศอังกฤษ รวมถึงเป็นที่พึ่งทางใจของประชาชนชาวอังกฤษมาอย่างต่อเนื่อง

ควีนเอลิซาเบธทรงให้สัมภาษณ์แบบติดตลกว่าวันราชาภิเษกเป็นวันที่ทรงต้องเกร็งพระศอ (คอ) เป็นอย่างมาก เพราะมงกุฎบนพระเศียรมีน้ำหนักค่อนข้างเยอะ หากทรงก้มพระเศียรหัวลงแม้แต่นิดเดียว มงกุฎก็จะหล่นลงมาได้

วันเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 70 พรรษาของเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์

เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายนที่ผ่านมาเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพครบ 70 พรรษาของเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ (Prince Charles, Prince of Wales) และเมื่อทรงขึ้นครองราชย์ในอนาคต พระองค์จะทรงเป็นพระมหากษัตริย์ของอังกฤษที่ทรงมีพระชนมายุเยอะที่สุดตอนขึ้นครองราชย์ และในวันเฉลิมฉลองที่ผ่านมา ควีนเอลิซาเบธ พระมารดาก็ได้ทรงเป็นประธานในการจัดเลี้ยงที่พระราชวังบัคกิ้งแฮม และแวดล้อมไปด้วยพระบรมวงศานุวงศ์

เรื่องเด่นราชวงศ์อังกฤษ

แม้จะมีพระชนมายุ 70 พรรษาแล้ว แต่เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ก็ยังทรงงานหนัก จนเจ้าชายแฮร์รี่ยังทรงเตือนด้วยพระองค์เอง เหตุผลที่ทรงงานหัก อาจจะเป็นเพราะเวลาในการขึ้นครองราชย์ของพระองค์นั้นใกล้เข้ามาแล้ว เพราะใน2-3 ปีที่ผ่านมา ควีนเอลิซาเบธได้ทรงมอบหมายงานสำคัญมากมายให้เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ เช่นปีว่าสุดที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ทรงวางพวงหรีดที่พิธีรำลึกทหารนิรนามผู้เสียสละในสงครามแทนพระองค์

เจ้าชายจอร์จทรงมีพระชนมายุได้ 5 ชันษาแล้ว

เจ้าชายจอร์จทรงมีบทบาทที่สำคัญในราชวงศ์อังกฤษ เพราะในภายภาคหน้าพระองค์จะได้ขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์ของประเทศอังกฤษ ดังนั้นพระองค์จึงทรงมีผู้สนใจติดตามข่าวสารมากมาย และในปีนี้พระองค์ก็เจริญชันษาได้ 5 ขวบปีแล้ว และทางสำนักพระราชวังก็ได้เผยแพร่ภาพพระองค์ในโอกาสอันดีนี้

ในปีนี้นั้นเจ้าชายจอร์จทรงเริ่มการล่าไก่ฟ้าในเขตพระราชฐานพระราชวังบัลมอรัล ที่สก็อตแลนด์ซึ่งถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่สืบมาอย่างยาวนานของราชวงศ์อังกฤษ รวมถึงได้ทำหน้าที่เป็น Page boy (เด็กผู้ชายต้อนรับแขกในงานแต่งงาน) ของพิธีอภิเษกสมรสของเจ้าชายแฮร์รี่ และพิธีอภิเษกสมรสของเจ้าหญิงยูจีนี่ (Princess Eugenie of York)อีกด้วย

ดัชเชสเมแกนทำพิธีเข้านิกายคริสตจักรแห่งอังกฤษ

ไม่กี่เดือนก่อนหน้าที่ดัชเชสเมแกนจะเข้าพิธีอภิเษกสมรสกับเจ้าชายแฮร์รี่ เธอได้ทำพิธีเข้านิกายคริสตจักรแห่งอังกฤษ (Church of England) อันเป็นนิกายประจำราชวงศ์อังกฤษที่มีควีนเอลิซาเบธเป็นองค์อุปถัมภ์สูงสุดในปัจจุบัน แต่เดิมนั้นดัชเชสเมแกนนับถือศาสนาคริสต์นิกายคาธอลิค แต่เธอต้องการเปลี่ยนนิกายเพื่อแสดงความเคารพต่อควีนเอลิซาเบธ พิธีดังกล่าวถูกจัดขึ้นเป็นการส่วนตัวที่พระราชวังวเซนต์เจมส์ โดยมีท่านอาร์คบิชอปแห่งแคนเทอร์เบอร์รี่มาร่วมทำพิธี

ดัชเชสเมแกนเริ่มทำโครงการการกุศลงานแรกในฐานะดัชเชส

แม้จะเพิ่งเริ่มบทบาทใหม่ในชีวิตในฐานะสมาชิกราชวงศ์อังกฤษ แต่เธอก็ไม่รอช้า เริ่มเดินหน้าโครงการการกุศลงานแรกของเธออย่างฉับไว โดยดัชเชสเมแกนได้เข้าช่วยเหลือโครงการ Hubb Community ซึ่งเป็นโครงการที่คอยช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์ไฟไหม้อาคารเกรนเฟลล์ที่ใจกลางกรุงลอนดอน โดยสมาชิกในโครงการนี้ต่างเป็นผู้หญิงจากแต่ละครอบครัวที่ผลัดกันมาร่วมทำอาหารให้แก่เหยื่อผู้ประสบภัยที่ต้องไร้บ้านจากเหตุการณ์ดังกล่าว โดยดัชเชสเมแกนยังได้ร่วมเขียนหนังสือชื่อ Together เพื่อหารายได้เข้าโครงการอีกด้วย

ดัชเชสเคทรับเป็นผู้อุปถัมภ์ของพิพิธภัณฑ์

ก่อนหน้าที่ดัชเชสเคทจะเข้ามาเป็นสมาชิกราชวงศ์อังกฤษ เธอเคยเป็นนักศึกษาวิชาประวัติศาสตร์ศิลปะมาก่อน ดังนั้นเธอจึงมีความรักและหลงใหลในศิลปะเป็นอย่างมาก นี่จึงเป็นสาเหตุที่เธอก้าวมาเป็นผู้อุปถัมภ์ของพิพิธภัณฑ์ Victoria & Albert museum ซึ่งตั้งชื่อตามพระนามของสมเด็จพระราชินีวิคตอเรีย (Queen Victoria of England) และพระสวามีเจ้าชายอัลเบิร์ต (Prince Albert, Prince consort) และด้วยความที่ดัชเชสเคทเคยเป็นช่างถ่ายภาพมาก่อน เธอจึงให้ทุนพิพิธภัณฑ์ในการเปิดศูนย์ถ่ายภาพและเดินทางมาเปิดศูนย์ดังกล่าวด้วยตนเอง