จริงหรือนี่!! ควีนเอลิซาเบธ ทรงเตรียมสุนทรพจน์ เผื่อสงครามโลกครั้งที่ 3 ไว้แล้ว

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในปัจจุบัน สถานการณ์ต่างๆในโลก ไม่ใคร่จะสงบนัก ทั้งการก่อการร้ายในภูมิภาคต่างๆ และความขัดแย้งด้านเชื้อชาติและศาสนาอย่างชัดเจนในหลายๆทวีป แม้จะยังชี้ชัดไม่ได้ว่าจะมีสงครามโลกครั้งที่ 3 เกิดขึ้นหรือไม่ แต่หลายฝ่ายก็เตรียมการป้องกันไว้ก่อนแล้ว และหนึ่งในนั้นก็คือ ควีนเอลิซาเบธ แห่งสหราชอาณาจักร (Her majesty Queen Elizabeth II of England)

จริงหรือนี่!! ควีนเอลิซาเบธ ทรงเตรียมสุนทรพจน์ เผื่อสงครามโลกครั้งที่ 3 ไว้แล้ว

ในเวลาปัจจุบันทั่วโลกกำลังมีสถานการณ์ที่ตึงเครียดหลายจุด ทั้งซีเรีย, อเมริกา และการก่อการร้ายในประเทศแถบยุโรป แม้ในปัจจุบันแต่ละประเทศกำลังหาทางเพื่อป้องกันไม่ให้ทุกอย่างบานปลาย แต่การเตรียมพร้อมนั้นสำคัญที่สุด ยิ่งสำนักข่าวต่างๆพากันแสดงความวิตกกังวลถึงความเป็นไปได้ ในการเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 ทุกประเทศจึงต้องดำเนินมาตรการทางการเมืองอย่างรัดกุมและมีการเตรียมพร้อมอยู่ตลอดเวลา เช่นเดียวกับที่อังกฤษ ที่สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธ ทรงตระเตรียมสุนทรพจน์เพื่อปลอบขวัญประชาชนในประเทศของพระองค์เมื่อถึงคราวคับขันไว้ล่วงหน้าแล้ว

ควีนเอลิซาเบธ

ความจริงสุนทรพจน์ฉบับนี้ถูกร่างขึ้นตั้งแต่ปี 1983 สมัยที่สงครามเย็นมีความตึงเครียดขั้นสูงสุด แต่พระราชินีเอลิซาเบธก็ไม่เคยได้ทรงอ่านหรือทำการบันทึกเทปแต่อย่างใด ในตอนนั้นสุนทรพจน์ฉบับนี้ถูกเก็บไว้เป็นอย่างดี และถูกนำมาเปิดเผยต่อสาธารณชนในปี 2013 ตามกฎสนธิสัญญาสงคราม ซึ่งพระราชินีเอลิซาเบธทรงมีสิทธิที่จะใช้ข้อความในสุนทรพจน์นี้สำหรับเหตุการณ์คับขันในภายภาคหน้า เพราะสำนักข่าวต่างๆได้ลงความเห็นว่า แม้จะมีบางช่วงบางตอนที่ไม่ทันสมัยไปบ้าง แต่เนื้อหาใจความหลักของสุนทรพจน์นี้ก็ครบถ้วนสมบูรณ์และเป็นสากลไร้กาลเวลาเป็นอย่างยิ่ง

ใจความของสุนทรพจน์นี้กล่าวไว้ว่า “ข้าพเจ้ายังจดจำไม่เคยลืมเลือน ในวันที่ข้าพเจ้าและน้องสาวต้องฟังเสียงประกาศจากพระบิดาของข้าพเจ้า (สมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 6 : King George VI) ที่ทรงออกมาปลอบขวัญประชาชนของพระองค์ในปี 1939 ซึ่งเป็นปีแรกแห่งสงครามโลกครั้งที่ 2 กระนั้น ข้าพเจ้าก็ไม่เคยนึกเลยว่าจะต้องมาทำหน้าที่เดียวกับพระบิดาของข้าพเจ้าในวันนี้ แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม พวกเราชาวอังกฤษมีคุณสมบัติอันแข็งแกร่งที่ทำให้เรายังปกป้องอิสรภาพของประเทศได้ แม้ผ่านพ้นภยันตรายแห่งศตวรรษนี้มาถึง 2 ครั้งแล้ว”

และมีอยู่ช่วงหนึ่งของสุนทรพจน์ที่สามารถนำกลับมาใช้สำหรับสถานการณ์ในยุคปัจจุบัน ที่ชาติมหาอำนาจต่างพากันสะสมอาวุธนิวเคลียร์เพื่อการคานอำนาจ “พวกเราต่างรู้ว่าภยันตรายที่อยู่ข้างหน้าพวกเรามันหนักหนากว่าที่เคยเจอมาตลอดในประวัติศาสตร์ ศัตรูตัวฉกาจของเราไม่ใช่ทหารที่มาพร้อมปืนกล หรือทัพอากาศที่ทิ้งระเบิดใส่เมืองของพวกเรา แต่มันคืออันตรายจากเทคโนโลยีที่ถูกใช้แบบผิดวิธีต่างหาก”

ในช่วงสุดท้าย พระองค์ได้ทรงให้กำลังใจประชาชนของพระองค์ไว้ว่า “สิ่งที่ข้าพเจ้าอยากฝากทุกคนไว้นั้นทำได้ง่ายมาก จงช่วยทุกคนที่ไม่อาจช่วยตนเองได้ จงให้ความช่วยเหลือผู้คนที่โดดเดี่ยวและไร้บ้าน และให้ครอบครัวของคุณเป็นหลักชัยของความหวังและชีวิตแก่ผู้คนที่ต้องการ ในขณะที่พวกเราต้องผนึกกำลังกันเพื่อผ่านพ้นปีศาจตัวใหม่นี้ ขอให้ทุกคนสวดมนต์อวยชัยให้เหล่าทหารหาญของประเทศไม่ว่าพวกเขาจะอยู่แห่งหนใดก็ตาม ขอให้พระเจ้าคุ้มครองทุกคน”