#เมียหลวงยืนหนึ่ง แคทรียา อิงลิช กับมุมมองความรักและชีวิตในวงการกว่า 30 ปี

แคทรียา อิงลิช เป็นอีกหนึ่งนักแสดงแถวหน้าที่คนไทยรู้จักและรักเธอมานานกว่า 30 ปี อะไรที่ทำให้เธออยู่ในวงการมายาได้อย่างยาวนานโดยแทบไม่เคยมีข่าวคราวไม่ดีออกมาเลย อีกทั้งยังดูแลตัวเองให้เป๊ะได้ตลอด …ตามมาดูกันค่ะ

แคทรียา อิงลิช

30 ปีในวงการที่ไม่ยึดติดกับโลกมายา

“แคททำงานในวงการบันเทิงมากว่า 30 ปี แคทรักในการแสดง ชอบร้องเพลง ชอบที่มีผลงานออกมาให้แฟนๆ ได้ดู แต่แคทจะไม่ใช้ชีวิตในวงการนะคะ พอแคททำงานเสร็จปุ๊บแคทออกเลย ชีวิตของแคทไม่ใช่การเป็นดารา แคทเป็นพี่สาวของคริสโตเฟอร์ เป็นลูกของแม่ เป็นเพื่อนที่ดีของเพื่อนๆ นี่คือชีวิตจริง เราไม่ยึดติดกับโลกมายาค่ะ

“ย้อนกลับไป ถ้าเกิดในยุคของแคท ความเป็นดารานี่มันเป็นสิ่งที่ยากมาก การอยู่ให้ได้นานก็ยิ่งยากกว่า สมัยนั้นลูกครึ่งอาจจะกำลังมาแรง ซึ่งการที่หน้าตาเราแปลกๆ ก็อาจทำให้เราได้เข้ามาในวงการง่ายขึ้นหน่อยนึง แต่ทั้งหมดทั้งมวลคือความสามารถ ทั้งในเรื่องการแสดง และเรื่องความรับผิดชอบ สมัยนั้นถ้าคุณมาสายนิดนึงนะ เรื่องต่อไปคุณอย่าได้หวังเลย อยากจะบอกว่าดาราสมัยนี้มีชีวิตที่ง่ายมาก จนอาจจะไม่เห็นคุณค่าของสิ่งที่ตัวเองได้เป็น”

แคทรียา อิงลิช

ความรักและรับผิดชอบในอาชีพ

“เป็นคนไม่ชอบรอใครและไม่อยากให้ใครมารอ ถ้ากองถ่ายนัด 6 โมงเช้า แคทไปถึงตี 5 หรือตี 5 ครึ่ง ไม่ใช่ไม่เหนื่อยนะ เหนื่อยมาก แต่มีความรู้สึกว่ามาถึงกองแล้วสบายใจ นั่งชิลได้ งีบสักหน่อยก็ยังได้ อย่างน้อยเราอยู่ตรงนี้ไม่มีใครรอเรา เราพร้อมทำงาน

“คุณแม่ปลูกฝังไว้ว่า เวลาเราทำงานเราต้องทำการบ้าน ไม่ใช่แค่ไปกองถ่ายแล้วค่อยท่องบทตรงนั้น แคทจะเป็นคนที่ชอบอ่านบททั้งเรื่อง ถ้าบทมาก็จะอ่านจนจบ แล้วดูว่าพรุ่งนี้เรามีฉากอะไร ดูเบรกดาวน์และเตรียมตัวก่อน ตรงไหนที่บทยาวก็จะเน้นนิดนึง จะเว้นวรรคอะไรยังไง ท่องประมาณนึง ให้ได้รู้เรื่องราวหรือความหมายของฉากนี้ แล้วพอวันรุ่งขึ้นเราก็พร้อม พอเข้าฉากปุ๊บก็สบายแล้วค่ะ นี่คือความรับผิดชอบที่เรามี มีความตรงต่อเวลา ความเคารพผู้ใหญ่ มีมารยาทในสังคม เจอผู้ใหญ่เราก็ไหว้”

แคทรียา อิงลิช

สนใจโซเชียลมีเดียให้น้อยลง = เครียดน้อยลง

“แคทเป็นคนที่เรียบง่ายมาก แต่ขนาดเราขี่มอเตอร์ไซค์ทุกวัน ไม่ได้ขับรถหรู ยิ่งของแบรนด์เนมนี่ไม่ได้ใช้เลยก็ยังมีคนว่าเราในโซเชียลว่าเราฟุ่มเฟือย นี่แหละคือโลกโซเชียล ถามว่ามันสร้างความเครียดมั้ย มันก็เครียดนะ เพราะคนที่ว่าไม่ได้รู้จักเราเลย ซึ่งไม่ใช่แคทคนเดียวที่โดน มีดาราโดนเยอะเหมือนกัน วิธีคลายเครียดของแคทก็คือพยายามไม่เสพ ไม่มอง ไม่ดู

“เมื่อก่อนนี้คนไม่ค่อยเครียดเพราะอะไร เพราะเค้าไม่มีโซเชียลที่เค้าจะต้องเสพอยู่ทุกวัน อยู่บ้านอยู่กับครอบครัวมีกิจกรรมทำ วาดรูป เล่นเกม มันไม่มีอะไรทำให้เราเครียด

“อีกสิ่งหนึ่งที่แคทอยากจะฝากคือ เวลาแคทขี่มอเตอร์ไซค์จะเห็นว่าคนเล่นโซเชียลบนท้องถนนกันเยอะมาก บางคนเล่นโทรศัพท์ถึง 2 เครื่อง ซึ่งมันอันตรายมาก อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้ แคทอยากให้เราแบ่งเวลาให้ดี และขอให้เสพและใช้สื่อโซเชียลอย่างมีสติในทุกช่วงจังหวะของการดำเนินชีวิตนะคะ”

แคทรียา อิงลิช

มุมมองต่อความรักในฐานะชลิตา จากระบำมาร vs. แคทรียา

“ชลิตา เป็นคนที่ศรัทธาในความรัก ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่อยู่ทนกับสามีที่มีเมียน้อยได้ทั้งๆ ที่รู้ ชีวิตชลิตาน่าสงสารนะคะ คือเขาจะต้องตามล่าสามีตลอด ต้องอดทนมากๆ โหมดนี้เราอาจจะไม่เคยเจอกับตัวเอง เรายังไม่เข้าใจ แต่พอหนิง (ปณิตา – ผู้จัดฯ) อธิบายปุ๊บ เราเข้าใจเลยค่ะ คนแต่งงานกันยังไงก็ต้องรัก ไม่อย่างนั้นเขาคงจะไม่ฝากชีวิตไว้กับสามีของเขา

“ถ้าเราเป็นแบบชลิตา เราจะให้โอกาสนะ แต่ถ้าอยู่ในขั้นคบกันแล้วนอกใจ แคทเลิกค่ะ เพราะแคทถือว่าเราไม่ได้แบ่งใจ ไม่ได้แบ่งกายให้คนอื่น เราให้เกียรติคุณ เราก็อยากได้รับเกียรติแบบนี้ด้วย คือเราถือมาก เรื่องความเจ้าชู้ จะไม่ได้เลย ถ้ารู้ปุ๊บคือตัดเลย จบเลยค่ะ

“แคทดีใจมากนะคะที่ละคร ระบำมาร กระแสดี คุณชลิตามาแรงมาก #เมียหลวงยืนหนึ่ง ขอบคุณทุกกระแสตอบรับ ขอฝากละคร ระบำมาร ด้วยนะคะ แต่ละตอนจะแซบขึ้นเรื่อยๆ บทบาทแต่ละคน จะพลิกแพลงแรงขนาดไหน ฝากเป็นกำลังใจและฝากเชียร์ #เมียหลวงยืนหนึ่ง ด้วยนะคะ”

แคทรียา อิงลิช

ดูแลตัวเองแบบ แคทรียา อิงลิช

“เมื่อก่อนแคทคิดว่าการออกกำลังกายเป็นสิ่งสำคัญที่สุด แต่จริงๆ แล้วอยู่ที่อาหารการกินของเรามากกว่า บวกกับการพักผ่อน ดื่มน้ำให้เพียงพอ ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่”

กินผิดชีวิตเปลี่ยน! น้ำหนักพุ่ง 7 กิโล

“มีอยู่ช่วงหนึ่งแคทไม่กินคาร์โบไฮเดรตเลย งดทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นขนมปัง ข้าว พาสต้า แม้กระทั่งมันฝรั่ง มันบด หรือผลไม้บางอย่างที่มีแป้ง (ฝรั่ง มะม่วง) ทานแต่โปรตีนและผักต้ม ผักลวก ทานไป 2 เดือน ซึ่งถือว่าพลาดมาก เพราะหลังจากกลับมาทานปกติปุ๊บน้ำหนักขึ้น 7 กิโล! เหมือนระบบเผาผลาญของร่างกายพังไปเลย เพราะพวกคาร์โบไฮเดรตจะเป็นเหมือนเชื้อเพลิงในการเผาผลาญของร่างกาย เพราะฉะนั้นถ้ามันขาดไป เชื้อเพลิงมันหาย พอเรากลับมาทานอีกมันก็ไม่เผาผลาญแล้ว แต่จะสะสมกลายเป็นไขมัน น้ำหนักก็ขึ้น

“ตอนนี้เลยไม่งดแล้ว กลับมาทานเช้ากับเย็น ตอนเช้าทานแบบราชาคือกินให้เยอะที่สุด พอกลางวันก็ลดปริมาณอาหาร กลางคืนไม่ทานแป้ง คือเหมือนกินปกติแต่ควบคุมมากขึ้น และไม่อดอาหาร ถ้าหิวระหว่างมื้ออาหารก็กินแอลมอนด์หรือพวกถั่วค่ะ”

ออกกำลังหนักไปทำร้ายข้อต่อ

“อาจด้วยเราใช้ร่างกายเยอะมากตั้งแต่วัยรุ่น ทั้งเต้น ยิมนาสติก โหนผ้า พอเข้าวัย 40 ก็เริ่มมีปัญหาเรื่องข้อเข่า เริ่มปวดข้อ ปวดกระดูก อีกทั้งหลังจากที่แคทโหนผ้าซึ่งเป็นแบบแนวกายกรรม ทำให้ไหล่ข้างซ้ายพัง กายภาพยังไงก็ไม่หายจึงต้องหยุดเล่น ตอนนี้เล่นแนวอิลิปติคอลคล้ายๆ การเดิน การสเต็ป ซึ่งมีแรงกระแทกน้อยกว่าการวิ่งบนลู่ และเล่นเวทนิดๆ หน่อยๆ เพื่อให้เฟิร์มหน่อย”

แคทรียา อิงลิช