2,215 เชื่อ บ้า กล้า ก้าว คือภาพยนตร์สารคดี คลุกวงในแบบตามติดประชิดตัว ตูน บอดี้สแลม -อาทิวราห์ คงมาลัย นักวิ่งน่องเหล็ก ตลอด 55 วันในโครงการก้าวคนละก้าว เรื่องราวตลอด 1.30 ชั่วโมง ผู้ชมได้เห็นเบื้องลึก เบื้องหลังทุกอย่างในเส้นทางการวิ่งกว่า 2 พันกิโลเมตร ซึ่งมีทั้งความเจ็บปวด รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และคราบน้ำตา และนี่คือ 10 เหตุผลว่า ทำไมเราต้องไปดูภาพยนตร์เรื่องนี้กัน
10 เหตุผล ทำไมต้องดู 2,215 เชื่อ บ้า กล้า ก้าว
สุดสัปดาห์มีโอกาสได้ไปชมภาพยนตร์ 2,215 เชื่อ บ้า กล้า ก้าว มาแล้ว ต้องบอกว่าดูแล้วอิ่มใจมาก ตลอดเวลาของการรับชม เรามีทั้งรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และแอบน้ำตาไหลด้วยในบางช่วง และความรู้สึกหนึ่งที่เด่นชัดขึ้นมาในหัวใจก็คือ ใครที่ชื่นชมและรักพี่ตูนอยู่แล้ว ดูภาพยนตร์เรื่องนี้จบ คุณจะรักพี่ตูน มากขึ้นกว่าเดิมอีก และนี่คือ 10 เหตุผลว่าทำไม เราจึงต้องไปชมภาพยนตร์เรื่องนี้ ทั้งนี้เราขอเล่าเป็นคร่าวๆ ไม่อยากจะสปอยล์มาก อยากให้ไปชมกันเอง
1. 2,215 เชื่อ บ้า กล้า ก้าว เป็นภาพยนตร์คลุกวงในบันทึกตลอดเส้นทางการวิ่ง 55 วัน เบตง-แม่สาย
ตลอด 55 วันของ “ก้าวคนละก้าว” ทุกเหตุการณ์ ทุกแง่มุม ทุกดราม่า น่าจะถูกเล่าออกสื่อไปหมดแล้ว.. ยกเว้นเรื่องราวจากกล้องตัวนี้ เรื่องราวที่ถ่ายทำโดยทีมงานสารคดีทีมเดียว ที่ตามติดถ่ายทำเข้านอกออกในแบบไม่เคาะประตู (ยกเว้นตอนเข้าห้องน้ำ) คุณได้เห็นรอยยิ้ม คราบน้ำตา และความเฮฮาหลังรถบ้าน และตลอดเส้นทางวิ่ง จากใต้สุดไปเหนือสุดแดนสยาม
2. ชมภาพปรากฏการณ์การวิ่งครั้งประวัติศาสตร์ระยะทางกว่าสองพันกิโลเมตร
จะได้เห็นว่ามีคนอาสามาร่วมขบวนวิ่งนับหมื่น มีคนเฒ่าคนแก่ ลูกเล็กเด็กแดง วัยรุ่นวัยผู้ใหญ่ ชะเง้อยื่นรอให้กำลังใจนับแสนนับล้าน
จนมีเงินระดมบริจาคเข้ามาให้โรงพยาบาลเกินหนึ่งพันสี่ร้อยล้าน! ทั้งหมดนี้.. เริ่มต้นเพราะ ผู้ชายร่างบางที่ชื่อ อาทิวราห์ คงมาลัย
3. แง่มุมน่ารัก ป่วน ฮา ที่ได้เห็นจากพี่ตูน
เวลาอยู่บนเวที พี่ตูนคือศิลปินที่สะกดผู้ชมด้วยเพลงร็อคอันเร่าร้อนทรงพลัง แต่พออยู่บนเส้นทางการวิ่ง เขาคือนักวิ่งที่ทำสถิติวิ่งข้ามประเทศคนแรกของไทย
และพออยู่บนรถบ้าน เขาคือไอ้หนุ่มร่างผอม ติดกาแฟ ดื้อกับหมอ แถมยังตลกฝืด!
4. คุณจะเห็นภาพตอนเด็ก และได้ฟังเสียงร้องเพลงของพี่ตูนในวัยเด็ก
เรื่องราวได้ตัดสลับ เล่าเรื่องวัยเยาว์ของพี่ตูนตอนเด็ก ผ่านคุณแม่ประนาม และคุณพ่ออนุรัตน์ คงมาลัย โดยมีภาพวิดีโอเคลื่อนไหว และรูปถ่ายของพี่ตูนในวัยเด็ก เหมือนเราได้ย้อนอดีตไปเห็นเด็กชายตูนในวัย 6-7 ขวบ คือเป็นอาตี่น้อยที่น่ารัก และ ร้องเพลงเพราะมากตั้งแต่เด็ก อยากรู้ว่าพี่ตูนตอนเด็กร้องเพลงอะไรบ้าง ต้องไปดู
5. สารคดีอะไร ทำให้ร้องไห้ ยิ้ม หัวเราะ ได้อย่างอิ่มใจในคราวเดียวกัน
คือดูแล้วรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นไบโพล่าเบาๆ เรื่องราวตัดสลับได้อย่างกลมกล่อม ลงตัว ทำให้คนดูอย่างเราๆ ยิ้ม หัวเราะ ทั้งน้ำตาไปในคราวเดียวกัน แต่มวลรวมของความรู้สึกนั้นคือความอิ่มใจ
6. แล้วจะเข้าใจว่า ทำไมพี่ตูนก็แวะทักทายทุกคนตลอดเส้นทางการวิ่ง
ภาพจำที่เห็นตลอด 55 วันของการวิ่ง คือพี่ตูนจะแวะทักทายคนที่รออยู่ข้างทางตลอด ส่งยิ้ม โบกมือ ทักทาย โดยเฉพาะเด็กน้อย และคนแก่ต้องหยุดแวะเข้าไป หลายคนอาจจะบอกว่า พี่ตูนวิ่งเลยไปเลยก็ได้ แต่เหตุผลที่พี่ตูนต้องแวะหาเด็กน้อย แวะเข้าไปหาคุณตาคุณยายนั้นก็คือ พี่ตูนรู้ว่าทุกคนรอด้วยหัวใจที่รักและเป็นกำลังใจให้เขา บวกกับพี่ตูนเป็นคนแคร์ความรู้สึกทุกคนมากๆ พี่ตูนจึงทำไม่ได้จริงๆ ที่จะวิ่งผ่านเลยไป
7. ความเจ็บปวดจากการวิ่ง
คุณได้รู้ถึงความเจ็บปวดของพี่ตูน ซึ่งพี่ตูนบอกว่า ไม่มีส่วนใหญ่ที่ไม่เจ็บไม่ปวด ภาพของการถูกเข็มเล็กๆ จิ้มเข้าเนื้อเพื่อรักษาการบาดเจ็บ จนพี่ตูนต้องร้องขอให้หมอหยุด ก็รู้สึกถึงความเสียสละ รู้ว่านักวิ่งน่องเหล็กคนนี้เจ็บปวดแค่ไหน
8. มีพี่โน้ต มาเปิดเวทีเดี่ยว เบาๆ บนบ้านรถ
ภายใต้ความเจ็บปวดระหว่างการรักษานั้น ยังมีพี่โน้ต ที่เข้ามาช่วยให้พี่ตูนหัวเราะและยิ้มได้ คลายเครียดได้ อยากรู้ว่ามุกฮาช่วงสั้น ๆเป็นอะไร ไปดูเองนะจ๊ะ
9. พลังและกำลังใจที่จะได้หลังจากดูจบ
ตลอดเส้นทางความเชื่อ หลังดูจบ คุณได้พลังบางอย่างในการใช้ชีวิตต่อ หรือแรงบันดาลใจบางอย่างให้ลุกขึ้นมาทำอะไรสัก อาจจะอธิบายได้ยาก คุณต้องไปสัมผัสเอง แต่ที่แน่
10. ก้าวนี้เพื่อศิริราชพยาบาล
โดยลำพัง ตึกกับหมอเก่งๆ ไม่เพียงพอในการทำให้คนไข้รอด จำเป็นต้องมีอุปกรณ์ ครุภัณฑ์ทางการแพทย์ เครื่องมือที่ดีพอ…” ท่านคณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา กล่าว หลายๆ คนอาจยังไม่รู้ว่าที่จริงแล้วการวิ่งเพื่อโรงพยาบาลนั้น เคยเกิดขึ้นเมื่อปี 2530 ซึ่งการวิ่งในครั้งนั้นจัดขึ้นโดยนักศึกษา คณะแพทยศาสตร์ศิรราชพยาบาล เพื่อร่วมระดมทุนสร้างตึกสยามินทร์ โรงพยาบาลศิริราช
การร่วมแรงร่วมใจกันในครั้งนั้น ก็เป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจของโครงการ “ก้าวคนละก้าว” และภาพยนตร์ “2,215 เชื่อ บ้า กล้า ก้าว” ที่เกิดขึ้นโดยมีจุดประสงค์ส่งไม้ต่อในการส่งแรงบันดาลใจให้กับคนไทยทุกๆ คน และระดมทุนในการจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ ให้แก่ อาคารนวมินทรบพิตร ๘๔ พรรษา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล พี่ตูน ได้เล่าถึงความรู้สึกว่า
ที่ศิริราชต้องการแรงสนับสนุกอีกพอสมควร กว่าจะทำให้อาคารนวมินทรบพิตร ๘๔ พรรษาสำเร็จได้ และใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด จึงสรุปกันว่าจะวิ่ง แต่ไม่ได้วิ่งเองแล้ว ใช้การวิ่งเบตง-แม่สาย ทำเป็นหนังสารคดี เพื่อบอกสารที่เราไปเห็นมา ที่เรารู้สึก และหนังเรื่องนี้จะเป็นเหมือนตัวขับเคลื่อน เป็นตัววิ่งแทน ส่งต่อแรงบันดาลใจใหกับทุกคน ฉายฟรีให้คนไทยทุกคนดู ใครเห็นด้วย ใครอยากช่วย อยากจะบริจาคสนับสนุนให้กับคุณหมอที่ศิริราชก็ช่วยกัน และผมคิดว่าวงจรความเกื้อกูลกันเหล่านี้ มันจะยังอยู่ต่อไป อยากให้หนังเรื่องนี้จะไปบันดาลใจใครได้ มันก็น่าจะดี
บริจาคได้ทางไหนบ้าง
ร่วมบริจาคเพื่อจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ ให้แก่อาคารนวมินทรบพิตร ๘๔ พรรษา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ผ่านช่องทางเหล่านี้ :
1) บัญชีรับบริจาค ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขาศิริราช เลขที่บัญชี 016-3-04556-7 ประเภทบัญชีกระแสรายวัน
ชื่อบัญชี เพื่อการรักษาพยาบาลผู้ป่วยอาคารนวมินทรบพิตร 84 พรรษา โรงพยาบาลศิริราช
2) SMS บริจาคครั้งละ 10 บาท โดยพิมพ์ T แล้วกดส่งมาที่ 4545099 (เริ่มบริจาคทาง SMS ได้ตั้งแต่ 1 ก.ย. 61)
3) สแกน QR Code ผ่าน Mobile Banking เพื่อการบริจาค
4) SCB EASY APP สามารถบริจาคผ่านปุ่ม “บริจาค” ใน SCB EASY APP และเลือก โครงการ “ก้าวคนละก้าว” เพื่อโรงพยาบาลศิริราช (เริ่มบริจาคได้ตั้งแต่ 11 ส.ค. 61)
5) กล่องรับบริจาค ตรงเคาน์เตอร์หน้าโรงภาพยนตร์
6) บริจาคผ่านช่องทาง True Money Wallet
ไม่ว่าใครก็สามารถดู “2,215 เชื่อ บ้า กล้า ก้าว” ได้ทั่วประเทศไทย ผ่าน 3 ช่องทาง ดังนี้ :
1.ชมฟรี ในโรงภาพยนตร์เครือ Major Cineplex และ SF วันที่ 6 – 16 กันยายน
* เช็ครอบฉายของโรงภาพยนตร์ในเครือ Major Cineplex และ SF ที่คุณต้องการชม ผ่าน www.majorcineplex.com หรือ Application Major group และ www.sfcinemacity.com หรือ Application Sf Cinema
* จันทร์-ศุกร์ กรุงเทพและปริมณฑล รอบเวลา 19.00น. / ต่างจังหวัด รอบเวลา 18.00น.
เสาร์-อาทิตย์ วันละ 2 รอบ 13.00น. และ 15.00น. ทั่วประเทศ
* รับบัตรได้ที่โต๊ะลงทะเบียนบริเวณหน้าโรงภาพยนตร์ 1 ชั่วโมงก่อนการรอบฉาย
* 1 ท่าน ต่อ 1 ที่นั่งเท่านั้น
* First come First Serve สำหรับท่านที่มาถึงก่อน จะได้รับบัตรที่นั่งแถวด้านบนก่อน
* ที่นั่งในแต่ละสาขามีจำนวนจำกัด
2. ซื้อบัตรชมในราคาต้นทุนโรงภาพยนตร์ 50 – 90 บาท ในเครือ Major Cineplex และ SF ตั้งแต่ 6 กันยายนเป็นต้นไป
* เช็ครอบฉายและราคาบัตรของโรงภาพยนตร์ในเครือ Major Cineplex และ SF ที่คุณต้องการชม
* สามารถซื้อตั๋วล่วงหน้าผ่านเว็บและแอปของ Major Cineplex และ SF
3. กิจกรรมพิเศษ ดูหนังฟรี 14 – 16 กันยายนนี้ สนับสนุนโดย คิง เพาเวอร์
* ที่สนามกีฬาแห่งชาติ อาคารกีฬานิมิบุตร โดย King Power Thai Power พลังคนไทย วันละ 4 รอบ ได้แก่ 12.00 น./14.30 น. /17.00 น./19.30 น. (ลงทะเบียนรับบัตรก่อนรับชมภาพยนตร์ 1 ชม.) รวมเป็น 12 รอบ รวมที่นั่งฟรีทั้งหมดกว่า 30,000 ที่นั่ง
แล้วมาส่งต่อกำลังใจดีๆ ผ่านภาพยนตร์ “2,215 เชื่อ บ้า กล้า ก้าว”
6 กันยายนนี้เป็นต้นไป ในโรงภาพยนตร์เครือ Major Cineplex และ SF
Text: AuAi ขอขอบคุณข้อมูลและภาพจาก เฟซบุ๊คซ ก้าว
คุยแบบ UNCENSORED กับ โอ๊ต ปราโมทย์ ต่ำตมแต่กลมกล่อมเหลือเกิน
The post 10 เหตุผลจากเรื่องจริง ที่ต้องไปดู 2,215 เชื่อ บ้า กล้า ก้าว appeared first on SUDSAPDA (สุดสัปดาห์) - TREND LIFESTYLE AND INSPIRATION.