หมอก้อง สรวิชญ์ มาแลกเปลี่ยนความรู้เรื่องการอ่านหนังสือกับน้องๆ โรงเรียนวัดสิงห์

สร้างแรงบันดาลใจในการอ่านไปกับ หมอก้อง สรวิชญ์

นอกจากจะเป็นคุณหมอ และนักแสดงมากความสามารถแล้ว ล่าสุด หมอก้อง สรวิชญ์ สุบุญ ยังใจดีมาเป็นวิทยากรพูดคุยกับน้องๆ โรงเรียนวัดสิงห์ จังหวัดชัยนาท ในเรื่องของการสร้างแรงบันดาลใจในการอ่านหนังสือ กับโครงการ The Happy Read ส่งความรู้สร้างความสุข โครงการดีๆ ที่ทางบริษัท อมรินทร์ พริ้นติ้งแอนด์ พับลิชชิ่ง จำกัด มหาชน และ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) จัดขึ้นเพื่อให้น้องๆ หันมาสนใจการอ่านมากขึ้นนั่นเอง

เริ่มกิจกรรมของวันนี้ด้วยการแชร์ไลฟ์สดทาง Facebook ของหมอก้อง นักแสดงหนุ่มที่จะมาบอกเล่าถึงประสบการณ์และเคล็ดลับในการอ่านหนังสือ ก่อนที่จะไปให้ความรู้และสร้างแรงบันดาบใจให้กับน้องๆ นักเรียนกันที่ห้องสมุดสุขสำราญ ห้องสมุดที่มีประวัติที่น่าภูมิใจทั้งคุณครูและนักเรียนโรงเรียนวัดสิงห์ เพราะเมื่อปี 2554 ที่เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมหนัก โดยห้องสมุดแห่งนี้ก็เป็นอีกสถานที่ที่ถูกน้ำท่วมสูงถึง 2 เมตร ซึ่งขณะนั้นน้ำไหลเข้าท่วมพื้นที่เร็วมาก จนไม่ทันได้ย้ายหนังสือและอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ต่างๆ ทำให้สิ่งเหล่านั้นได้จมอยู่ใต้น้ำและไม่สามารถนำกลับมาใช้ได้เหมือนเดิมอีก แต่ด้วยพระเมตตาของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระองค์ท่านทรงเล็งเห็นความสำคัญของการเรียนรู้ผ่านหนังสือและคอมพิวเตอร์จึงได้มอบหนังสือและคอมพิวเตอร์ให้กับห้องสมุดสุขสำราญแห่งนี้ อีกทั้งผู้คนภายนอกยังสามารถเข้ามาใช้ค้นคว้าหาความรู้ได้อีกด้วย ถือเป็นพระมหากรุณาอันล้นพ้นที่มีต่อนักเรียนและครูอาจารย์โรงเรียนวัดสิงห์ จ.ชัยนาท

คำถามยอดฮิตที่เด็กสมัยนี้มักจะสงสัยกันที่ว่า ดารานักแสดงสามารถอ่านบทยาวๆ แล้วจำได้อย่างไร พี่หมอก้องของเราก็ได้ให้คำตอบเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ว่า “เราต้องมองตัวละครทั้งหมดในเรื่องให้ได้ ให้ออก ก็ต้องอ่าน ต้องอ่านเยอะด้วย เพราะว่าเราต้องไปเล่นเป็นคนอื่น เราไม่ได้เล่นเป็นตัวเองด้วยยิ่งต้องอ่านเยอะมาก…” ไม่ต่างกับการอ่านหนังสือเรียน ที่ควรอ่านให้เข้าใจซึ่งจะให้ผลดีมากกว่าการท่องจำเพื่อเข้าไปทำข้อสอบ นอกจากนี้ยังมีคำถามอีกมากมายที่น้องๆ นักเรียน และจากผู้ชมทางบ้านให้ความสนใจและถามกันเข้ามา อย่างคำถามที่ว่า ทำไมชอบอ่านหนังสือ โดยหมอก้องได้พูดภาพรวมถึงการอ่านหนังสือ ว่าตนเป็นคนชอบอ่านแนวนวนิยาย เพราะสามารถมองเห็นภาพผ่านตัวอักษร ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่มหัศจรรย์ของหนังสือที่จากตัวอักษรกลายเป็นภาพได้ ยิ่งถ้าอ่านรอบที่ 1 อ่านรอบที่ 2 อ่านรอบที่ 3 ภาพที่ออกมา มุมมองที่เข้าใจก็จะไม่เหมือนเดิม และภาพของแต่ละคนที่ได้อ่าน มุมมองของแต่ละคนที่คิดก็จะไม่เหมือนกัน เนี่ยคือความมหัศจรรย์ของตัวหนังสือ

โรงเรียนแห่งนี้ได้มีโครงการสร้างสรรค์ที่ช่วยให้เด็กๆ สนใจในการอ่านหนังสือมากขึ้นอย่าง โครงการนิทานหน้าเดียว คือการอ่านหนังสือทั้งเล่มและมาสรุปย่อให้อยู่ภายในหนึ่งหน้ากระดาษพร้อมวาดภาพประกอบอย่างสวยงาม เพื่อเป็นการส่งต่อให้คนที่เริ่มหัดอ่านหนังสือสามารถทำความเข้าใจแบบง่ายๆ สั้นๆ อีกทั้งยังเป็นการพัฒนาความทรงจำในเรื่องที่น้องๆ นักเรียนเองอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งโครงการที่น่าสนใจไม่แพ้กัน นั่นก็คือ โครงการนิทานกล่อง โดยการเปลี่ยนรูปลักษณ์ของนิทานที่ไม่ได้อยู่ในหนังสือเพียงอย่างเดียว แต่สามารถนำเสนอผ่านรูปร่างอื่นๆ อย่างืรงกล่องแบบป็อปอัพที่สามารถเปิดอ่านได้ เพิ่มความเก๋ไก๋ และความน่าสนใจในการอ่านมากขึ้น

ปิดท้ายกันด้วยข้อคิดดีๆ ที่หมอก้องอยากจะฝากถึงเยาวชนยุคปัจจุบันที่ว่า “การอ่านมันเป็นการพัฒนาตัวเอง น้องต้องสะสมไปเรื่อยๆ อย่างที่พี่บอกทำไปเหอะ เชื่อเถอะว่าดี ถ้าดีก็จงทำไปเถอะ และพอวันนึงเราจะรู้ตัวเองว่าสิ่งที่เราสะสมมาเรื่อยๆ มันเกิดประโยชน์ต่อตัวเราจริงๆ ” ก่อนที่จะจากลากันไปหมอก้องยังได้แนะนำหนังสือน่าอ่านที่ตนชื่นชอบอย่าง แฮรี่ พอตเตอร์ รหัสลับดาวินชี่ และเชอร์ล็อค โฮมส์ ซึ่งเป็นแนวสืบสวนสอบสวนที่ทำให้เราได้คิดตาม นอกจจากความสนุกที่ได้จากการอ่านหนังสือเหล่านี้แล้วยังเป็นการฝึกพัฒนาสมองได้อีกทางหนึ่งด้วย

อนึ่ง โครงการ “ส่งความรู้ สร้างความสุข” ของ อมรินทรร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) จัดขึ้นร่วมกับไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ภายใต้การสนับสนุนจากก.ศึกษาฯ และสพฐ. เพื่อส่งเสริมให้เด็กไทยมีนิสัยรักการอ่าน โดยจะมีกิจกรรมอย่างต่อเนื่องไปจนถึงปีหน้า และเพจสุดสัปดาห์แฟนคลับจะติดตามข่าวคราวมาอัพเดทกันเรื่อยๆ ค่ะ หรือผู้ที่สนใจสามารถอัพเดทโดยตรงได้ที่ thehappyread.com หรือ facebook.com/The-Happy-Read