เผิงอวี๋เยี่ยน งานก็ปัง นิสัยก็ดี นี่แหละผู้ชายที่สาวๆ อยากได้เป็นพ่อของลูก !

เผิงอวี๋เยี่ยน ต้นแบบที่ดีของเยาวชน และต้นแบบที่ดีของการเป็นสามีของลูก !

เผิงอวี๋เยี่ยน นักแสดงหนุ่มหล่อจากไต้หวันที่เขาเอ่ยปากเองว่า ตัวเองไม่ใช่คนเก่ง จึงอาศัยความพยายามอย่างสุดชีวิต เพื่อให้มีวันนี้ !

ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่นจริงๆ สำหรับสุภาษิตนี้ขอยกให้กับ เผิงอวี๋เยี่ยน (หรือที่คนไทยรู้จักในชื่อ Eddie Peng) ที่ได้พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นแล้วว่าชีวิตอะไรก็เกิดขึ้นได้จริงๆ ตอนที่เผิงอวี๋เยี่ยนยังเด็ก ชีวิตของเขาไม่ได้สวยหรูนัก เขาเป็นเด็กอ้วนฉุฉะ มีโรคประจำตัวที่รักษายังไงก็ไม่หาย จนหมอของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งต้องบอกให้เขาไปลองรักษาตัวที่อื่น ในขณะที่ชีวิตกำลังวุ่นกับเรื่องสุขภาพ พ่อแม่ของเขาก็แยกทางกัน เขาจึงต้องย้ายไปอยู่กับแม่ที่แคนาดาตอนอายุได้ 13 ปี และอยู่ที่นั่นจนเรียนจบมหาวิทยาลัย กระทั่งคุณยายของเขาเสีย เขาจึงย้ายกลับมาอยู่ที่ไต้หวันอีกครั้ง

เผิงอวี๋เยี่ยน, Eddie Peng, 彭于晏 — ซีรี่ย์ไต้หวันเรื่องแรกของเผิงอวี๋เยี่ยน Tomorrow (2002)

เผิงอวี๋เยี่ยนมีผลงานซีรี่ย์ไต้หวันเรื่องแรกคือ Tomorrow (2002) ทำให้เขาเข้าสู่วงการบันเทิงอย่างเต็มตัว โดยในเรื่องนี้เขารับเป็นเพียงพระรองที่แอบชอบนางเอกตอนสมัยเรียนมัธยมเท่านั้น หลังจบจากเรื่องนี้ ชื่อของเผิงอวี๋เยี่ยนยังไม่เป็นที่รู้จักเท่าไรนัก กระทั่งเขาได้แสดงเป็นนักแสดงสมทบในซีรี่ย์จีนกำลังภายในเรื่อง เซียนกระบี่พิชิตมาร ในปี 2005 (พระเอกของเรื่องคือ หูเกอ นั่นเอง) ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เขาเป็นที่รู้จักมากขึ้นอาจเป็นเพราะกระแสของเรื่องที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก อีกทั้งบท ถังอี้ว์เสียวเป่า ที่เขาได้รับเป็นบทที่แม้จะไม่ได้ออกจนจบเรื่อง แต่เขาก็แสดงได้น่ารักจนได้ใจคนดูไปไม่น้อย

ต่อมาในปี 2007 ชื่อเสียงของเขาเริ่มดังมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อหนังรัก My DNA Says I Love You เรื่องราวเกี่ยวกับอนาคตที่นางเอกเปลี่ยนยีนเพื่อให้ได้รับความรัก (ในเรื่องเผิงอวี๋เยี่ยนรับบทนำร่วมกับพระเอกชื่อดังของไต้หวัน เหอรุ่นตง) ทำให้เขาถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลสาขานักแสดงหน้าใหม่ยอดเยี่ยม

จากนั้นเผิงอวี๋เยี่ยนยังคงมีผลงานหนังออกมาอยู่เรื่อยๆ แม้ว่าจะยังได้รับเพียงการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลเท่านั้น แต่สิ่งหนึ่งที่เปลี่ยนไปคือ เขาถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลในสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมนั่นเอง โดยเรื่องแรกที่ทำให้เข้าถูกเสนอชื่อในสาขานี้คือ Jump Ashin! หนังแนวกีฬา ดราม่า ที่เผิงอวี๋เยี่ยนรับบทเป็นนักกีฬายิมนาสติก ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องยากสำหรับคนที่ไม่ใช่นักกีฬา เนื่องจากการถ่ายทำในแต่ละฉากต้องใช้พลังและความแข็งแรงของร่างกายมาก แต่พระเอกคนนี้ไม่แคร์ ! เขาทุ่มเทแรงกายแรงใจทั้งหมดใช้เวลาฝึกซ้อมอย่างยากลำบากเป็นเวลา 8 เดือนเต็ม และออกกำลังกายอย่างหนักวันละ 10 ชม. เพื่อให้ได้กล้ามเนื้อจริง ซิกแพคจริง (จากรูปเห็นเลยว่ากล้ามมาจริงๆ ล่ำเลือดกำเดาไหลมากจ้า !) ซึ่งความพยายามของเขาก็ไม่เสียเปล่า แม้จะไม่ได้รางวัล แต่ก็พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นแล้วว่า นี่แหละอีกหนึ่งนักแสดงคุณภาพที่แท้จริง

ต่อมาในปี 2012 ผลงานแสดงของเขาก็ยังคงได้รับการเสนอชื่ออยู่เรื่อยๆ จากหนังรัก A Wedding Invitation เรื่องราวของนางเอกและพระเอกที่เป็นแฟนกัน แต่เพราะความฝันที่มีเป็นคนละเส้นทางกัน ทั้งคู่จึงตัดสินใจทำสัญญาเลิกกัน 5 ปี ถ้าหลังจาก 5 ปีไปแล้วทั้งคู่ยังไม่มีใครใหม่ก็ค่อยกลับมาแต่งงานกัน ส่วนอีกเรื่องในปีเดียวกันนี้คือ หนังบู๊สุดมันส์ คนระห่ำสังเวียนนักสู้ เนื้อหาเกี่ยวกับนักมวยที่หนีหนี้จนได้ไปเจอกับเด็กคนหนึ่งที่มีความฝันอยากจะเป็นนักมวย ทำให้เขาเข้าใจความหมายของชีวิตมากขึ้น ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นอีกครั้งที่เราได้เห็นกล้ามท้องงามๆ ของเผิงอวี๋เยี่ยนด้วย

ในที่สุดเผิงอวี๋เยี่ยนได้เล่นหนังฟอร์มยักษ์ที่เชื่อว่าคนไทยหลายๆ คนน่าจะเคยดูมาแล้ว เรื่อง หวงเฟยหง พยัคฆ์ผงาดวีรบุรุษกังฟู เมื่อปี 2014 นั่นเอง เรื่องบู๊สุดมันส์ของพระเอกหวงเฟยหง (รับบทโดย เผิงอวี๋เยี่ยน) ปรมาจารย์ด้านกังฟูในตำนานของจีนนั่นเอง ซึ่งการรับเล่นบทของหวงเฟยหงไม่ง่ายเลย เพราะต้องแสดงให้คนดูเข้าถึงอินกับกังฟูของพระเอกให้ได้ แต่พระเอกของเราก็ทำออกมาได้ดีหลังจากไปฝึกกังฟูพื้นฐานมาก่อนเริ่มการถ่ายทำนั่นเอง และอีกเรื่องที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือเรื่องรักดราม่าวัยรุ่น Fleet of Time ที่เรียกเรตติ้งจากวัยรุ่นในจีนได้อย่างล้นหลามจนกวาดรายได้ไปกว่า 590 ล้านหยวน (คิดเป็นเงินไทย 2,950 ล้านบาท !)

จากนั้นในปี 2015 เผิงอวี๋เยี่ยนก็ได้รับเล่นหนังแอ็คชั่นวัยรุ่นเลือดร้อน To the Fore เกี่ยวกับการแข่งจักรยาน โดยมีไอดอลชื่อดังจากเกาหลีอย่าง ซีวอน Super Junior ร่วมแสดงด้วย แถมยังทำให้ทั้งคู่กลายเป็นเพื่อนสนิทกันไปโดยปริยาย ส่วนบทบาทของนักแข่งจักรยานในเรื่อง เผิงอวี๋เยี่ยนก็ลงทุนซ้อมขี่จักรยานจริงวันละ 6-7 ชม.เลยนะจ๊ะขอบอก !

และสุดท้ายหนังที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จมากที่สุดคือ Operation Mekong (2016) หนังบู๊แอ็คชั่นระห่ำที่กวาดรายได้ทะลุ 100 ล้านหยวน !! (คิดเป็นเงินไทย 500 ล้านบาท) แถมยังเป็นหนังที่ทำลายสถิติรายได้ของหนังแอ็คชั่นจีนด้วย โดยพระเอกของเรื่องอย่างเผิงอวี๋เยี่ยนก็ลงทุนเรียนภาษาไทย พม่า รวมไปถึงยิงปืน เพื่อให้เข้าถึงบทบาทได้มากที่สุดด้วย นี่แหละเป็นการการันตีได้อย่างดีว่า ความพยายามของเผิงอวี๋เยี่ยนไม่เคยสูญเปล่า เขาเป็นอีกหนึ่งนักแสดงคุณภาพที่พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่นจริงๆ !

ทุกวันนี้เผิงอวี๋เยี่ยนที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานจนดังไปทั่วเอเชียแล้ว เมื่อมีเวลาว่างเขาก็ยังหมั่นดูแลคุณแม่ของเขาอยู่เสมอ อีกทั้งเวลาไปเที่ยวที่ไหนจะเห็นได้ว่าสาวคนเดียวที่อยู่กับเขาโดยตลอดก็คือ คุณแม่ของเผิงอวี๋เยี่ยนนั่นเอง โดยจะมีรูปน่ารักๆ โมเม้นต์ระหว่างแม่ลูกให้เห็นอยู่เสมอ แบบนี้แล้วจะไม่ให้อยากได้เผิงอวี๋เยี่ยนเป็นพ่อของลูกได้ยังไง ทั้งตั้งใจทำงาน มีความพยายาม ไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ แถมยังรักครอบครัวอีก กรี๊ด อยากได้คนนี้เป็นพ่อของลูก !