ไม่ได้เกรง ไม่ได้กลัว แต่แค่รักจนหมดใจ เหล่า ดาราชาย ทั้ง 5 จึงยอมทุกอย่าง ทุ่มเททุกทาง เพื่อคุณภรรยาสุดที่รักของพวกเขา จนกลายเป็นวีรกรรมขําๆ ฮาๆ พร้อมกับเรื่องชวนซึ้ง ที่คนนอกบ้านอาจไม่เคยรู้ งานนี้วีรกรรมของ พ่อบ้านใจกล้า แต่ละคนจะเด็ดแค่ไหน ตามสุดฯ ไปพิสูจน์รักแท้กันเลยค่ะ
พ่อบ้านใจกล้า สายร็อค “โจ๊ก-กรภพ จันทร์เจริญ”
บนเวทีบร๊ะเจ้าโจ๊กอาจจะเป็นขวัญใจของวัยโจ๋ แต่เมื่อกลับบ้านเขาคือพ่อบ้านที่มีหน้าที่หลักในการเลี้ยงลูกและดูแลมะหมา ส่วนเรื่องภรรยานั้นไม่ต้องพูดถึง ยอมได้เป็นยอม ง้อได้ก็ต้องรีบง้อ เพราะนี่คือหน้าที่หลักของสามีที่ดี
“ตอนแต่งงานกันแรกๆ ผมกับภรรยาทะเลาะกันบ่อยมาก แล้วเวลาทะเลาะกัน ผมไม่เคยชนะเลย ไม่ว่าใครผิดเราก็ต้องง้อ ยิ่งทะเลาะกันแรงเท่าไร ตอนง้อต้องยิ่งใหญ่เท่านั้น แล้วเราก็เป็นฝ่ายเหนื่อยเอง เคยโดนโกรธถึงขนาดที่เขาหอบลูกหนีไปอยู่บ้านพ่อตา ปล่อยไปไม่ถึงวันหรอกครับ เราก็ต้องแบกหน้าไปหอบหิ้วกลับมา
“แล้วส่วนใหญ่เรื่องที่ทะเลาะกันก็มักจะเป็นเรื่องเล็กๆ เหมือนทฤษฎีที่ว่า ผู้หญิงมักจะประชดจนกว่าจะได้สิ่งที่ต้องการ ส่วนผู้ชายก็จะไม่รู้อะไรเลย จนกว่าผู้หญิงจะบอกตรงๆ นี่คือชีวิตผมเลย เขาจะไม่บอกความจริงออกมาง่ายๆ ว่าไม่ชอบเรื่องนี้ ทําอย่างนี้สิ แต่จะรอดูว่า เราจะรู้ได้ด้วยตัวเองไหม แล้วผมก็ไม่ค่อยรู้ไง คือไปผิดทางตลอด
“สิ่งที่อึดอัดมากคือ เวลาเขาดูโทรศัพท์เรา เพราะเขาไม่ได้เช็กแค่เรื่องผู้หญิง แต่จะเหมือนแม่ ที่คอยตรวจสอบการใช้โทรศัพท์ว่า ‘ทําไมไม่ตอบคนนี้ ทําไมคนนี้ไลน์มาแล้วปล่อยให้ค้าง’ ผมจึงรู้สึกว่า ทุกครั้งที่เขาหยิบโทรศัพท์เราไป จะต้องเจออะไรที่ไม่ถูกใจเสมอ แล้วก็จะมีคําถามว่าทําไมๆๆ ออกมาเป็นชุด แต่เราก็ยินดีให้ดูนะ มันจําเป็น เพราะถ้าอยู่ดีๆ ไม่ให้ดูโทรศัพท์ ก็จะเกิดคําถามว่า ‘มีอะไร ทําไมไม่ให้ดู’ คือเขาชอบของเขา เราก็ต้องยอม
“ทุกวันนี้ถึงจะทํางานนอกบ้าน แต่เรื่องงานในบ้านผมก็ไม่เคยขาด พอกลับบ้านไป ผมจะช่วยงานในส่วนที่ไม่ต้องใช้สมองมาก เช่น อาบน้ำลูก แต่งตัวลูก ป้อนข้าวบ้าง เล่านิทานก่อนนอนทุกวัน และมีงานที่สมัครใจทําอีกอย่างคือ รับผิดชอบหมาทั้งสี่ตัวในทุกเรื่อง ไม่ว่าจะพาไปอาบน้ำ ให้อาหาร ทําความสะอาดบ้านของมัน ทุกอย่างที่เกี่ยวกับหมา เราทําหมด เพราะเป็นงานที่ไม่ต้องคิด แต่ถ้าให้คิดจะทะเลาะอย่างเดียว เพราะว่าเราคิดไม่เป็น
“อย่างสอนการบ้านลูก ผมจะไม่แตะเลย เพราะผมสอนไม่ดี สอนไม่รู้เรื่อง ตอนเช้าๆ เวลาภรรยาผมจ้ำจี้จ้ำไชลูก ผมจะอยู่บนห้อง ไม่ลงไปดู เพราะถ้าลงไปดูแล้วจะอดไม่ได้ ด่าภรรยาแทนลูกทุกที เหมือนโกรธแทนลูก ทั้งที่จริงลูกๆ ก็ไม่ได้โกรธหรือนอยด์อะไร กับการที่แม่เขาดุ แต่เราดันไปรู้สึกรําคาญเองมากกว่า
“ส่วนเรื่องความเกรงใจภรรยา ผมมีอยู่มากครับ ใช้คําว่ากลัวดีกว่า ยอมรับว่ากลัวเมีย แต่ก็แค่บางเรื่อง อย่างเรื่องที่เรารู้ว่าเขาไม่ชอบ แล้วเราดันไปทํา เช่น ผิดเวลานัดหมาย ทําในสิ่งที่ห้าม จะกลัวมาก ไม่อยากมีปัญหา เพราะทุกครั้งที่เขากลายร่างเป็นปีศาจ ก็จะเป็นเพราะผมไปปลุกปีศาจในตัวเขา อาจจะไปใช้คําพูดที่รุนแรงกับเขาก่อน จนเขากลายเป็นปีศาจ ตอบโต้กลับด้วยความรุนแรง แต่ถ้าเราดับไฟตั้งแต่แรกก็จะไม่มีปัญหา สุดท้ายถ้าเขาโกรธ เราก็ง้อ บางทีก็ทําตลกใส่ แต่งตัวเป็นผู้หญิง แล้วเปิดเพลงออกมาเต้นบ้าง จนเขาหลุดขํา คนเราพอขําปุ๊บ จบเลย จะกลับมาทําหน้าเครียดก็ไม่เนียนแล้ว แต่หลังๆ จิตเขาแกร่งกล้าขึ้น มุกตลกใช้ไม่ค่อยได้ผลแล้ว
“ถึงแม้ว่าภรรยาจะไม่ได้ทําร้ายร่างกาย หรือทําอะไรรุนแรงมากมาย แต่ผมก็กลัวเขาขั้นสุดนะ อาจจะเป็นเพราะเราเหนื่อยที่จะทะเลาะ หรือจะปะทะด้วย คือแค่คิดว่าต้องทะเลาะกับเขาก็เป็นทุกข์แล้ว บางครั้งถลําตัวเผลอด่าไป ถ้ากลับลําได้ก็กลับ พอตั้งสติได้ก็เบรกเลย ไม่ว่าใครจะผิดจะถูก ก็ไม่อยากมีเรื่องกับเขา
“เพราะสําหรับผม การจะเป็นผู้ชายที่แข็งแกร่งจริง ไม่ใช่การไปข่มเหงผู้หญิง หรือทําร้ายร่างกายเขา แบบนั้นไม่ใช่ความเข้มแข็ง แต่เป็นความอ่อนแอ เพราะสิ่งเหล่านั้นสามารถทําได้ง่ายมาก ที่ยากกว่าคือการยอม ซึ่งต้องใช้ความเข้มแข็งในการกดอีโก้ของตัวเองลงมา เก็บความโกรธ ถ้าทําได้ ต้องถือว่าเอาชนะตัวเองได้ สุดท้ายเมื่อผู้ชายใจเย็น อ่อนโยนต่อผู้หญิง โลกก็จะอยู่ง่ายขึ้น ดังนั้นเวลาอยู่กับภรรยา อันไหนอ่อนได้ก็รีบอ่อน อันไหนยอมได้ รีบยอมเลยครับ ปลอดภัยที่สุด”
พ่อบ้านใจกล้า สายบึ้ก “แมน-การิน ศตายุ”
ออกตัวแรงแบบไม่เหยียบเบรกว่านี่แหละพ่อบ้านใจกล้าตัวจริงเสียงจริงงานบ้านจะหนักจะเบาเขาก็สู้ ส่วนเรื่องเอาใจศรีภรรยา สามีคนนี้ทุ่มเกินร้อย ถามว่าเกรงใจแค่ไหน ใช้คําว่ากลัวแทนน่าจะใช่กว่า
“เรื่องงานบ้าน ก่อนแต่งงานก็ไม่คิดว่าจะเป็นพ่อบ้านเต็มตัวขนาดนี้ อาจเพราะว่าก่อนแต่งมีอยู่ช่วงหนึ่งที่ไม่ได้ออกกําลังกาย พอมาอยู่บ้านเลยเริ่มหัดกวาดบ้าน ถูพื้นเอง แล้วรู้สึกว่า เฮ้ย! สนุกจัง ได้เหงื่อด้วย เลยเริ่มคิดบวกว่า น่าจะชักชวนให้พ่อบ้านทุกคนลองหันมาทํางานเหล่านี้ดู เหมือนเป็นการดูแลตัวเองไปในตัว โดยเริ่มจากจุดเล็กๆ อย่างแค่กวาดบ้าน ก็เผาผลาญพลังงานได้ถึง 230 กิโลแคลอรีแล้ว ถึงแม้ความจริงอาจจะเป็นคําสั่งเมียก็ตาม แต่ในอีกมุมหนึ่ง เราก็ได้ออกกําลังกายไปด้วย ซึ่งสําหรับผม มันสนุก และเมามันมาก (หัวเราะ)
“งานบ้านที่สนุกที่สุดสําหรับผม คือถูพื้น เพราะเป็นงานที่เราได้ออกแรงเยอะ ได้เหงื่อแบบเห็นชัดมาก แล้วพอพื้นสะอาด เวลาคนมาบ้านเราจะรู้สึกดีกับคําชมว่า พื้นบ้านสะอาดจัง เดินแล้วไม่สากเท้าเลย ได้ยินแล้วปลื้มใจ เหมือนได้รางวัลออสการ์ คือมันยิ่งใหญ่กับเรามาก งานที่สองคือจับหอยทากไปทิ้ง คือหน้าฝนหอยทากจะเยอะมาก เราต้องจับมารวมกันแล้วเอาไปทิ้ง ไม่งั้นมันจะกินใบไม้ ดอกไม้ ซึ่งผมเป็นคนลงมือปลูกต้นไม้ ลงหญ้า ใส่ปุ๋ยเร่งดอกเอง เพราะเราชอบสีเขียว ไม่อยากให้มีสีน้ำตาล หรือใบไม้แหว่งในสวนของเรา งานจับหอยทากจึงเป็นอีกหน้าที่หนึ่งที่ชอบ อีกอย่างคือเปลี่ยนผ้าปูที่นอนและปูเตียง เพราะผมปูตึงมาก จนเกลชมว่า ทําไมพี่แมนปูได้ตึงขนาดนี้ (ยิ้ม)
“เอาเข้าจริง ผมก็ไม่ได้ทํางานบ้านคนเดียวหมดทุกอย่างแบบที่เห็นในเฟซบุ๊ก หรืออินสตาแกรมหรอกครับ แบ่งๆ กันทํามากกว่า อย่างเกลเขาเป็นลูกสาวผู้รับเหมาก่อสร้าง อยู่กับเครื่องกลเครื่องจักรมาตั้งแต่เด็ก จึงถนัดงานที่ดูเหมือนว่าเป็นงานที่ผู้ชายต้องทํา เช่น ประกอบเฟอร์นิเจอร์ หรืองานต่อเติม แค่เอาส่วนประกอบมาวางตรงหน้า นางจะรู้เลยว่า ตัวนี้ต้องต่อตรงนี้ ต้องไขนอตตรงนั้น ต้องใช้ประแจ เป็นคนที่เชี่ยวชาญเรื่องพวกนี้มาก แม้แต่บางทีที่โทรทัศน์ดูไม่ได้ นางก็จะรู้ว่าสายสีดําสีแดงต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้
“ส่วนพวกงานแม่บ้านทั้งหลาย ก็จะเป็นงานของผม พอพูดไปอาจจะเหมือนเมียเป็นใหญ่ในบ้าน ซึ่งก็จริงส่วนหนึ่ง แต่จริงๆ แล้วเราอยากทําเองด้วย เคยมีอยู่ทีหนึ่งคุยกันขําๆ ว่าจะมีข้อตกลงในการแบ่งวันกันทํางานบ้าน เกลก็บอกว่าวันไหนที่มี ‘ร’ วันนั้นพี่แมนต้องทํานะ กลายเป็นว่าพอเกลส่งไบเบิลมาให้ดู สรุปนางเขียนวันพุธเป็น ‘พรุธ’ พอพฤหัสบดีนางก็ใส่ ‘ร์’ เป็นพฤหัสบดีร์ อาทิตย์ก็เป็นอาร์ทิตย์ คือเกลไม่น่าจะตกภาษาไทยขนาดนี้นะ สุดท้ายเราก็ต้องทําต้องทําทุกวัน (หัวเราะ)
“ถามว่าผมเกรงใจเกลไหม พูดตรงๆ กลัวเลยละครับ อะไรที่เขาไม่สบายใจ ก็ไม่อยากทํา เพราะรู้ว่าเวลาที่เราโกรธกันไม่สนุกเลย ชีวิตผมให้ความสําคัญกับเรื่องความรักมาเป็นอันดับหนึ่ง ผมเชื่อว่าถ้าเรามีความรักที่ดี ก็จะส่งผลให้ทุกอย่างดีหมด เช่น เรื่องสุขภาพ ถ้ามีความรักที่ดีก็จะมีกําลังใจทําให้เราแข็งแรง อยากมีชีวิตอยู่นานๆ คือถ้าเราใส่ใจในความรัก ทุกอย่างก็จะดีหมด ไม่ว่าจะเป็นความรักต่อแฟนหรือต่อพ่อแม่ก็ตาม”
พ่อบ้านใจกล้า สายมุ้งมิ้ง “มิค-บรมวุฒิ หิรัณยัษฐิติ”
ไอดอลของเหล่าพ่อบ้านใจกล้าที่รักภรรยามากถึงมากที่สุด เลเวลความเกรงใจนั้นอยู่ในระดับเกิน10ไปมาก ทั้งเอาอกเอาใจ แถมเรื่องงานบ้านก็ไม่เคยขาดตกบกพร่อง แต่หากถึงเวลาซีเรียสพ่อบ้านรายนี้ก็เฮี้ยบขึ้นมาเหมือนกันนะ
“ชีวิตผมเริ่มเปลี่ยนไปตั้งแต่ตอนที่เบนซ์มาขอเบอร์แล้วละครับ (ยิ้ม) หลังจากคบกันจนหมดช่วงโปรโมชั่นเบนซ์ก็บอกว่า ‘ถ้าพี่ทนหนูได้อีกสองปี แสดงว่าพี่จะทนหนูได้ตลอดชีวิต’ เขาเลยจัดหนักทุกเรื่องเรื่องเล็กก็ทําให้เป็นเรื่องใหญ่ เรื่องไม่เป็นเรื่องก็ทําให้เกิดเรื่องขึ้นมาได้ หรือแม้แต่เรื่องที่เขามโนขึ้นมาเอง ก็มาชวนทะเลาะกัน ทุกอย่างเป็นเรื่องได้หมด!! แล้วทะเลาะกันมาตลอดสองปีเต็ม จนเข้าปีที่ 4 เขาก็เริ่มน้อยลง และกลายมาเป็นปกติ (หัวเราะ)
“แต่พอแต่งงานปุ๊บ ทุกอย่างก็เปลี่ยนอีก กลับไปเหมือนช่วงโปรโมชั่นเลย คนอื่นอาจจะมีโปรโมชั่นช่วงแรก แต่งงานแล้วเบื่อกัน แต่คู่มิคพอแต่งงานแล้วมีแต่โปรหวานหนักมาก และมิคก็ชอบแบบนี้ ถ้าเป็นไปได้ก็ขอเลือกแบบนี้ไปตลอดชีวิต เพราะทุกวันนี้มีความสุขมาก
“ถามว่ามิคตามใจเบนซ์ไหม เรารักของเราก็ต้องตามใจเขาเป็นธรรมดา อย่างตอนที่เขาท้องแล้วน้ำหนักขึ้น ตอนนั้นเราตกลงกันว่าจะถ่ายแบบ มิคก็ฟิตหุ่นออกกําลังกาย กินคลีนมาพักหนึ่ง จนกําลังจะเริ่มถ่าย เบนซ์ก็ไม่มั่นใจในตัวเอง เขานอยด์ทุกครั้งที่มีคนทักว่า ทําไมอ้วนอย่างนี้ จนวันหนึ่งมิคกลับมาบ้าน เห็นเขานั่งร้องไห้อยู่คนเดียว เราก็ถามว่าเป็นอะไร เขาบอกกลับมาว่า ‘หนูอ้วนค่ะพี่ หนูไม่สวย’ เราเลยตัดสินใจเดี๋ยวนั้นว่า ‘ต่อไปนี้มิคจะเลิกกินคลีนแล้ว หนูกินอะไรมิคจะกินเป็นเพื่อน แล้วจะกินให้เยอะ ให้อ้วนกว่าหนูเลย เอาให้คนเรียกมิคว่าไอ้อ้วนแทนหนู’ จากนั้นเราก็พยายามเพิ่มน้ำหนัก ซึ่งกว่าจะบิลด์ให้ขึ้นมา15กิโลได้ก็นานอยู่
“เรื่องงานบ้านมิคก็ทําคนเดียว เบนซ์ไม่ทําเลย ทั้งซักผ้า เก็บผ้า เพราะปกติมิคชอบดูแลของมิคเองอยู่แล้ว หลังจากแต่งงานก็ต้องดูของเบนซ์ด้วย อย่างของส่วนตัว ชุดชั้นใน มิคก็ซักให้ เพราะเราไม่อยากให้คนอื่นมาแตะของภรรยาเรา ของลูก มิคก็ดูเอง ไม่ให้คนอื่นแตะเลย เพราะหวงมาก ส่วนการเลี้ยงลูก กลับไปถึงบ้านมิคจะช่วยเบนซ์ดูทันที เพราะเขาเลี้ยงมาทั้งวันแล้ว เราก็อยากช่วยบ้าง โดยเฉพาะเรื่องอาบน้ำให้ลูกนี่ผมขอเลย เพราะคิดว่าเราอาบให้สะอาดกว่า
“จริงๆ แล้วเบนซ์เขาดุนะ โหดเลยละ บางทีโหดแบบไม่มีเหตุผลด้วย เช่นมิคขอไปกินนั่นนี่กับเพื่อน เขาจะมาละ ‘ไปทําไม ทําไมต้องไป’ แต่อยู่ดีๆ บางทีมิคนั่งอยู่บ้านดูทีวีเฉยๆ เบนซ์ถ่ายละครเสร็จกลับมาบอก ‘เอ้า ทําอะไรเนี่ย พี่นัดเพื่อนไว้ไม่ใช่เหรอ รีบแต่งตัวออกไปเลย กลับไม่ไหวโทร.บอก เดี๋ยวหนูไปรับ!?!?’ คืออะไร ปรับตัวไม่ทัน แต่ก็สนุกดี มีเบนซ์คนเดียวเหมือนมิคมีแฟน 10 คนในเวลาเดียวกัน เผลอๆ ภายใน 1 ชั่วโมงมีแฟนถึง 5 คน แต่ข้อดีคือ เขาเป็นคนที่โกรธง่ายแล้วหายเร็วมาก ขี้งอนนะ แต่ถ้าเราไม่เถียง ปล่อยเขาบ่นไปฝ่ายเดียว ไม่ถึง 5 นาทีก็เปลี่ยนเรื่องใหม่ละ คือเรายอมเขามาตั้งแต่แรกไง ก็คงต้องยอมต่อไป
“สําหรับมิคมองว่าเบนซ์เป็นภรรยาที่ดีที่สุดที่คนคนหนึ่งจะหาได้แล้ว เพราะถึงมิคจะบอกว่าเบนซ์ดุ เบนซ์นั่นนี่ แต่ความจริงแล้วมิคโชคดีมากที่เบนซ์จะมีมุมสวีตกับมิคคนเดียว ถึงแม้ในมุมหนึ่งเขาจะวีนใส่มิค นั่นก็เพราะเขารู้ว่าเขาทําได้ คนอื่นใครจะงี่เง่าใส่เขาก็จะยอม พอมิคโทร.หาถามว่ากินข้าวหรือยัง แค่นั้นแหละ เขาจะตะคอกมาเลยว่า ‘อารมณ์เสียมาก โทร.มาทําไม’ ระเบิดใส่เราซะงั้น แต่ในอีกมุมก็จะน่ารักมาก คอยถาม ‘คุณพี่คะ หิวไหม ยังไม่ได้กินอะไรเลยนี่ เดี๋ยวหนูปอกผลไม้มาให้กินนะ’ ถึงแม้ว่าสิ่งที่เจอบ่อยกว่าจะเป็น ‘พี่ๆ หนูอยากกินกีวี พี่ปอกให้หน่อยได้ไหม’ แต่เขาก็น่ารักสําหรับเรา” (ยิ้ม)
พ่อบ้านใจกล้า สายดึก “หลุยส์-พงษ์พันธ์ เพชรบัณฑูร”
รับบทตัวร้ายมาดโหดในจอทีวี แต่พออยู่กับภรรยาสุดที่รัก จาก เสือดุๆก็กลายเป็นแมวเหมียวขี้อ้อนไปในพริบตา สาเหตุหลักเพราะรักเธอมาก แต่ที่ทําให้ต้องหงอ เราว่าเป็นเพราะฝ่ามืออรหันต์มากกว่านะ
“ผมกับแฟนคบกันมา 7 ปี แต่เพิ่งแต่งงานเมื่อปลายปีที่แล้ว บอกเลยว่า หลังแต่งงานเขาเปลี่ยนไปเยอะมาก ในทางที่ดุร้ายและโหดเหี้ยมขึ้น (หัวเราะ) มุมที่รู้สึกว่าโชคดีมากคือ ภรรยาผมเป็นคนใจกว้าง บางทีเราอยากจะทําอะไรเขาก็ให้ทํา แต่ถ้าไปไหนโดยไม่บอกไม่กล่าว ก็อาจจะมีบ้างประสาผู้หญิง ที่หงุดหงิด โมโห แต่เขาก็ไม่ได้บังคับว่าเธอต้องเป็นแบบฉัน หรือฉันต้องเป็นแบบเธอ เพราะเราสองคนค่อนข้างจะมีชีวิตที่แตกต่างกันมาก
“เช่น เขาทํางานประจําก็จะนอนเร็ว แต่ผมเป็นคนนอนดึกมาก บางทีถ้าไม่มีงานนอนตีสี่ตีห้าเลยก็มี เพราะกลางคืนเป็นเวลาที่ว่างตรงกับเพื่อนๆ เราก็จะนัดเล่นบาสกัน ตอนห้าทุ่มถึงตีหนึ่งตีสอง แล้วสนามบาสดันอยู่ในซอยข้างอาบอบนวด
“จําได้ว่าวันแรกที่นัดเล่นบาส เป็นวันที่แฟนและภรรยาของทุกคนมารวมตัวกัน เพราะไม่มีใครเชื่อว่าพวกเราจะไปเล่นบาส ด้วยเวลาและสถานที่ที่น่าสงสัย เลยอยากจะไปดูให้เห็นกับตา ภาพสนามบาสในวันนั้นจึงเป็นภาพที่มีแฟนๆ มานั่งเชียร์ เหมือนเป็นแมตช์ใหญ่ ซึ่งหลังจากนั้นพวกเธอก็ไม่มาอีก แต่เพื่อนบางคนก็ยังต้องส่งวีซ่า คือถ่ายรูปหมู่ไปให้แฟนดูเป็นการยืนยัน
“ในหนึ่งอาทิตย์ผมจะทั้งเล่นบาส ตีกอล์ฟ และเตะบอล เลยกลับบ้าน เกือบเช้าตลอด จนบางทีก็คิดว่าเราสนุกมากเกินไปไหม คือกิจกรรมเหล่านี้เป็นความสนุกในแบบที่ไม่มีภรรยาอยู่ด้วย พอมานั่งคิดแล้วก็จะรู้สึกเกรงใจ เพราะคนเป็นสามีภรรยาควรจะมีช่วงเวลานอนกอดกันบ้าง แหย่กันบ้าง
“ดังนั้นทุกครั้งที่กลับบ้านเร็ว เราก็มักจะแหย่กันเล่น ซึ่งภรรยาผมแรงเยอะมาก เวลาเล่นมวยปล้ำกัน ผมจะโดนล็อกตลอด สู้ไม่ไหว เพราะมือไม้เธอยาวมาก แล้วเธอไม่เคยรู้หรอกว่าเวลาที่ยื่นมือมา เหมือนจะไม่โดน แต่คือโดนทุกครั้ง เลยเป็นการทําร้ายร่างกายผมโดยไม่ตั้งใจทุกที
“เรื่องทะเลาะพ่อแง่แม่งอนก็มีครับ ส่วนใหญ่จะเป็นเชิงปากเสีย หงุดหงิดใส่กันมากกว่า เราก็จะทําเป็นขําๆ ไป ให้ทุกความหงุดหงิดมีความคอมเมดี้แฝงอยู่ ไม่มากก็น้อย แต่เอาจริงๆ แล้ว ผมเป็นคนที่ไม่อยากมีปัญหา ในใจอาจจะอยากต่อกรกับเขานะ เพราะบางทีอยู่กับภรรยาแล้วแอบอึดอัด โมโห อยากจะเอาคืน
“คือพอเรามาอยู่ด้วยกันแล้ว ทุกอย่างต้องแชร์ ต้องปรับตัว ต่างคนต่างก็ต้องมีจุดที่รับไม่ได้ แต่เราจะมองเป็นเรื่องขําเสียมากกว่า แกล้งอําเขาไปเลย บางทีเขาก็จะมีอาการบ้าง เอ๊ะ! ทําไม อะไร ยังไง แต่พอเราอัดหนักเข้า จนเขาเริ่มจะมีอารมณ์ ก็กลับเป็นเราที่ต้องเป็นฝ่ายง้อทุกที
“ทุกวันนี้ถ้าใครมาถามว่าแต่งงานแล้วเป็นยังไง ผมจะถามกลับทันทีว่าแต่งหรือยัง ถ้ายังจะเอามือตบบ่าแล้วบอกว่า ถ้ายังอยากมีความสุขอยู่ อย่าเพิ่งแต่ง มีเมียก็เหมือนติดคุก แล้วจะไม่ได้รับการอภัยโทษตลอดชีวิต (หัวเราะ) แต่ในมุมดีก็คือ ถ้าแต่งงานแล้ว ผมบอกได้เลยว่า จะมีคนคอยห่วงเราเสมอ อย่างเวลาเราหรือเขาไปไหนมาไหน ก็จะนึกถึงกัน เธออยากกินอันนั้นไหม เอาอันนี้หรือเปล่า คงเป็นเพราะความรักและความผูกพันที่เรามีให้กัน จึงทําให้เราคอยดูแลกันและกันเสมอ แม้บางทีจะไม่ได้แสดงออกมาก็ตาม”
พ่อบ้านใจกล้า สายฮา “อาร์ต-มารุต ชื่นชมบูรณ์”
แม้งานบ้านงานเรือนจะไม่ใช่เรื่องถนัด แต่ถ้าเป็นการตามใจและตามง้อ พ่อบ้านดีเจเสียงใสคนนี้จัดเต็มแบบถวายชีวิต ไม่ยอมแพ้บ้านไหนแน่นอน
“ความน่ารัก มุ้งมิ้ง ขี้อ้อน คือสิ่งที่ภรรยาผมไม่มีเลย หน้าตาเขาอาจจะน่ารัก นั่นทําให้ไม่มีใครเชื่อ ว่าเขาเป็นคนคอนโทรลชีวิตผมทุกอย่าง ดูแลทุกอย่าง เดี๋ยวนี้เรื่องงาน เขาก็เป็นคนดูแล ผมมีหน้าที่แค่ออกไปทํางาน แล้วกลับบ้าน เท่านั้นเอง ที่เหลือเขาจัดการหมด ส่วนตัวผมก็เป็นคนแบบนี้ ไม่ค่อยอะไรเท่าไร ถามว่าไว้ใจได้ไหม ได้ครับ โอเคเมื่อก่อนอาจจะเสเพลบ้าง ตามประสาผู้ชาย แต่เดี๋ยวนี้ไม่มีแล้ว แต่งงานแล้วเลิกหมด เป็นสามีที่ดีมานานแล้วครับ (ยิ้ม)
“เรื่องตามใจ ผมตามใจเขาทุกอย่าง แต่นิสัยผู้หญิงเข้าใจยากเหมือนกันนะ บางทีก็งอนแบบไม่มีที่มาที่ไป หรือบางทีก็ทําอะไรให้เรางง อย่างโทร.ไปขอกินข้าวกับเพื่อน นางบอก ‘โอเคไปเลย’ เท่านั้นแหละ วางหูไม่ถึงสิบนาที โทร.มาถามแล้วว่า‘ถึงหรือยัง’ เฮ้ย! เพิ่งออกมาเอง อีกสิบนาที โทร.มาอีกละ ‘จะกลับหรือยัง’ คือเพิ่งถึงไหม พอถามเพื่อนๆ ที่มีครอบครัวแล้วปรากฏว่าเป็นแบบนี้กันทุกบ้าน เลยกลายเป็นว่านี่คือสิ่งที่เราต้องเข้าใจ เขาคงเป็นห่วง
“เรื่องที่เขางอนบ่อยๆ คือการที่ผมพูดจาไม่ค่อยคิด แต่เขาคิด คือถ้าพูดๆ อยู่แล้วเงียบสามนาที นี่คือโดนแล้วละ ต้องย้อนเทปกลับไปเลยว่า พูดเรื่องอะไรไปบ้าง เราก็จะถามว่า เรื่องนี้งอนเหรอ ถ้าตอบว่า ‘เปล่า’ ก็จะถามไปเรื่อยๆ จนเรื่องไหนที่เงียบนั่นละ ใช่เลย แล้วเราก็ต้องง้อ ผิดถูกก็ต้องง้อ
“ถามถึงความเกรงใจ ผมไม่ยอมแพ้ใครอยู่แล้ว ให้เลเวล 10 เลย (หัวเราะ) เพราะตอนนี้นางได้รวมตัวกับพี่อ้น (ศรีพรรณ ชื่นชมบูรณ์) และคุณแม่โดยตรงแล้ว อย่างตอนพี่โอ๊ต-ปราโมทย์ ปาทานเปิดร้านอาหารใหม่ๆ ก็ชวนผมไปบ่อย เวลาไปผมก็บอกเมียว่าจะกลับห้าทุ่มนะ พอห้าทุ่มปุ๊บ ติดลม อยู่ต่ออีกหน่อยแล้วกัน เดี๋ยวค่อยกลับสักเที่ยงคืน จนเที่ยงคืนแล้วก็ยังไม่กลับ
“แค่นั้นแหละ ในไลน์กรุ๊ปครอบครัว ซึ่งจะมีพ่อ แม่ พี่อ้น ผม และแยม ก็จะมีเสียงติ๊งขึ้นมา นางเข้าไปบอกว่า ‘พี่อ้นคะ อาร์ตยังไม่กลับบ้านค่ะ’ จากนั้นอีกแป๊บเดียว พี่อ้นจะตามมาทันที ‘อาร์ตอยู่ไหน กลับได้แล้ว’ แม่ก็มาเลยว่า ‘ต่อไปนี้ถ้ามันกลับบ้านดึกอีก โทร.มาบอกแม่เลยนะ’ จนผมต้องรีบบอกทุกคนว่า หยุด จะกลับแล้ว วางทุกสิ่งอย่างเลย เอาไม่อยู่จริงๆ
“แต่เอาเข้าจริง ผมชอบชีวิตหลังแต่งงานนะ เพราะเราเหมือนมีหน้าที่แค่เป็นเสาหลักของครอบครัวอย่างเดียว ทํางานหาเงิน ที่เหลือเขาจัดการดูแลให้หมด บัญชีทุกอย่างก็เป็นหน้าที่เขา อยากซื้ออะไรก็ต้องขอ ส่วนที่เป็นเงินเดือน เขาอนุญาตให้ผมดูแลเอง แต่เงินจากงานอื่นๆ ทั้งหมดเขาจัดการ ต้องเข้าใจก่อนว่าเงินเดือนผมต้องผ่อนทั้งบ้าน ทั้งรถอีกสองคัน แค่นี้ก็แทบจะเกลี้ยงละ
“อยากบอกคนที่ชอบคิดว่า แต่งงานแล้วอิสรภาพจะหายไป แต่งแล้วต้องมีคนมาอยู่ข้างๆ ตลอดเวลา ใช่ มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ แต่ก็เป็นความสุขอีกแบบหนึ่ง ถ้าคุณพร้อมที่จะไม่ไปเสเพล พร้อมที่จะดูแลใครสักคน ถ้าถึงเวลาแล้วก็แต่งเถอะ อย่าช้า แล้วมาเป็นพ่อบ้านใจกล้าด้วยกันครับ”
ภาพจาก IG: louis_legstrong , djart_marut , brajaojoke , man_karin , mickbaromvudh
เรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง :
#อยากได้แบบนี้ 8 สามีดารา ที่รักภรรยาม้ากมาก จนสาวๆ อิจฉา
#มีแฟนแล้วคบนานมาก 4 ศิลปิน ดาราไทย ที่มีคนรู้ใจมานานแล้วแต่ไม่ค่อยเปิดเผย
The post พ่อบ้านใจกล้า !!! 5 ดาราชาย กับวีรกรรมทำเพื่อภรรยา ไม่ได้กลัวแค่เกรงใจ appeared first on SUDSAPDA (สุดสัปดาห์) - TREND LIFESTYLE AND INSPIRATION.